ยูโรสแตท (Eurostat) ซึ่งเป็นสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า กรีซมีตัวเลขขาดดุลงบประมาณและหนี้สินในปี 2552 สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
โดยตัวเลขขาดดุลงบประมาณของกรีซอยู่ที่ระดับ 15.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จากเดิมที่คาดว่ามีประมาณ 13.6% ส่วนหนี้สินก็เพิ่มขึ้นแตะ 126.8% ของจีดีพี จากที่เคยคาดว่าอยู่ที่ 115.4% ของจีดีพี
"ตัวเลขขาดดุลงบประมาณปี 2552 ที่ได้รับการประเมินใหม่ทำให้รัฐบาลกรีซต้องพยายามลดตัวเลขขาดดุลอย่างมหาศาลในปี 2553" รัฐมนตรีคลังกรีซระบุในแถลงการณ์ที่ได้รับการเปิดเผยในภายหลัง
ข้อตกลงให้ความช่วยเหลือด้านการเงินซึ่งกรีซลงนามร่วมกับอียูและกองทันการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า กรีซต้องลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณให้เหลือไม่ถึง 3% ของจีดีพีภายในปี 2557 ดังนั้นตัวเลขขาดดุลงบประมาณและหนี้สินที่ได้รับการประเมินใหม่จึงทำให้รัฐบาลกรีซถูกกดดันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคลังของกรีซกล่าวว่า "การลดตัวเลขขาดดุลจะดำเนินต่อไปตามเป้าหมายและกรอบที่ตกลงไว้กับอียู ธนาคารกลางยุโรป และไอเอ็มเอฟ ซึ่งจะนำไปสู่การลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณให้เหลือไม่ถึง 3% ของจีดีพีภายในปี 2557"
นอกจากกรีซแล้ว ไอร์แลนด์ก็เป็นอีกประเทศที่มีตัวเลขขาดดุลงบประมาณสูง โดยยอดขาดดุลงบประมาณของไอร์แลนด์อยู่ที่ระดับ 14.4% ของจีดีพีในปี 2552 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมารัฐบาลไอร์แลนด์คาดการณ์ว่า ค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือภาคธนาคารจะทำให้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณพุ่งเกือบแตะ 32% ของจีดีพีในปี 2553 ซึ่งสูงกว่ากรีซมาก สำนักข่าวซินหัวรายงาน