หนังสือพิมพ์สเตรทส์ ไทมส์ ของสิงคโปร์ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ของสิงคโปร์เพิ่มขึ้นแตะ 1,058 ยูนิตในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เทียบกับยอดขายที่ 911 ยูนิตในเดือนกันยายน หนุนให้ยอดขายทั้งปีอาจมีสถิติที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดขายคอนโดมิเนียมระดับผู้บริหาร ซึ่งเป็นที่พักอาศัยในระดับหรูหรา ที่พุ่งกว่า 74% แตะ 1,587 ยูนิต อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ตัวเลขที่สูงขึ้นไม่ได้หมายความว่า การออกมาตรการเพื่อลดความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์เมื่อเดือนสิงหาคมของรัฐบาลนั้นไม่ได้ผล
โดยกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหญ่ ซึ่งเป็นตลาดคอนโดมิเนียมในเขตชานเมืองมียอดขายลดลง 25% เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขของเดือนกันยายน และในทางตรงกันข้าม ที่อยู่อาศัยในเขตศูนย์กลางธุรกิจสำหรับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงกว่ากลับได้รับผลกระทบจากมาตรการน้อยกว่า โดยมียอดขายสูงถึง 335 ยูนิต ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่ายอดขายของเดือนก่อนถึง 4 เท่า ส่วนยอดขายบ้านในเขตชานเมืองมีจำนวนทั้งสิ้น 271 ยูนิต เพิ่มขึ้น 20% จากตัวเลขของเดือนกันยายน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า มาตรการลดความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม บวกกับการเปิดตัวของโครงการคอนโดหรูใหม่ๆ ได้ช่วยลดความต้องการของตลาดกลุ่มใหญ่ลง
สำหรับอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนยอดขาย นักวิเคราะห์ได้มองว่า ผู้ซื้อได้กลับมาซื้ออีกครั้งหลังผลกระทบจากกฎระเบียบเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน