สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดสัญญาทองคำดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 30.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,338.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,329 - 1,364.30 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 85.9 เซนต์ ปิดที่ 25.233 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 30.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,338.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ดิ่งลง 40.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,645.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 35.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 645.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดทองคำนิวยอร์กถูกกดดันอย่างหนักจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลที่ว่าที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มสหภาพยุโรปอาจไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ไอร์แลนด์ โดยในขณะนี้รัฐมนตรีคลังกลุ่มสหภาพยุโรปกำลังประชุมร่วมกันที่เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งวาระการประชุมหลักคือการหาแนวทางแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของไอร์แลนด์
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางจีนอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ หลังจากที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ไปแล้วเมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนต.ค.ของเกาหลีใต้ พุ่งขึ้น 4.1%