นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า หลังจากที่เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ 1 มกราคม 2548 ก็ส่งผลให้มูลค่าทางการค้าระหว่างไทยกับออสเตรเลียขยายตัวถึง 3 เท่าตัว ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนด้านการลงทุน บีโอไอก็ได้ใช้จุดเด่นของข้อตกลง ดึงดูดให้นักลงทุนออสเตรเลีย และนักลงทุนต่างชาติในออสเตรเลีย เข้ามาลงทุนในไทย ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ของออสเตรเลียสนใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น
ในช่วง 10 เดือนของปีนี้ บีโอไอได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนจากออสเตรเลีย จำนวน 16 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 6,071 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับมูลค่าเงินลงทุนของออสเตรเลียในไทย เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งมีประมาณ 546 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า
สำหรับการลงทุนที่ไทยได้ประโยชน์จากการทำเอฟทีเอกับออสเตรเลียนั้น นักลงทุนไทยจะสามารถเข้าไปลงทุนในธุรกิจบริการและการผลิตสินค้าได้ 100% ยกเว้นธุรกิจหนังสือพิมพ์ ธุรกิจกระจายเสียง การบินระหว่างประเทศ และท่าอากาศยาน เนื่องจากมีผลกระทบต่อความมั่นคง ขณะที่รัฐบาลออสเตรเลียได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยทำธุรกิจประเภทต่างๆ ได้มากกว่าสมาชิกอื่นในองค์การการค้าโลกหรือ WTO อีกด้วย
ทั้งนี้ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2553 นี้ บีโอไอร่วมกับสถาบันออสเตรเลีย—ไทยและรัฐบาลออสเตรเลีย จัดสัมมนาเผยแพร่ข้อมูลเรื่องประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) ในหัวข้อ “Making TAFTA and FTAs Work for You" ที่ห้องบอลรูม 1 โรงแรมฮอลิเดย์ อิน พัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับทราบถึงประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย ที่เอื้อต่อการลงทุนระหว่างกันของทั้งสองประเทศ รวมทั้งสามารถนำข้อดีจากความตกลงดังกล่าว ไปต่อยอดขยายธุรกิจมากยิ่งขึ้น
โดยในการสัมมนาจะมีวิทยากรของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ สถาบันไทย -ออสเตรเลีย บีโอไอ และยังมีบริษัทที่เข้าไปลงทุนในออสเตรเลียแล้ว ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีมาร่วมให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจไปลงทุนในออสเตรเลีย ซึ่งขณะนี้มีผู้ตอบรับเข้าร่วมงานสัมมนาประมาณ 180 คน