กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่เดือนต.ค.ร่วงลง 11.7% สู่ระดับ 519,000 หลังต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 600,000 หลังต่อปี บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะซบเซา
ส่วนตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 550,000 หลังในเดือนต.ค.
หากพิจารณาเป็นรายภูมิภาคพบว่า ตัวเลขการก่อสร้างบ้านในภูมิภาคตะวันตกร่วงลงหนักสุดถึง 30.5% ขณะที่ตัวเลขการก่อสร้างในภูมิภาคตอนใต้ลดลง 13.4% อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการก่อสร้างบ้านในเขตนอร์ธเวสต์ และมิดเวสต์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.9% และ 1% ตามลำดับ
การร่วงลงอย่างหนักของตัวเลขการสร้างบ้านในเดือนต.ค.เป็นผลมาจากตัวเลขการก่อสร้างบ้านเดี่ยวและอพาร์ทเมนท์ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 10%
นอกจากนี้ การร่วงลงของตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนต.ค.ยังออกมาสอดคล้องกับรายงานของสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้สร้างบ้านสหรัฐเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 16 จุด ซึ่งแม้ว่าขยับขึ้นจากเดือนต.ค.ที่ระดับ 15 จุด แต่ดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่า ผู้สร้างบ้านยังคงมีมุมมองเป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ