นายมาริโอ อามาโนะ รองเลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาการทางเศรษฐกิจ (OECD) กล่าวแสดงความคิดเห็นในวันนี้ว่า ประเทศหลักๆในกลุ่มสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) จำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพด้านการแข่งขันเพื่อให้สอดคล้องกับประเทศสมาชิกประเทศอื่นๆ
"ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ กำลังเผชิญกับความท้าทายในการฟื้นฟูประสิทธิภาพด้านการแข่งขัน ในขณะที่สมาชิกประเทศอื่นๆของอาเซียน อย่างเวียดนาม ได้ผงาดขึ้นเป็นฐานการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาคแล้ว" นายอามาโนะกล่าว และกล่าวเสริมว่า "ในขณะที่บางประเทศมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่ก็มีอีกหลายประเทศที่ยังไปไม่ถึงจุดนี้"
นอกจากนี้ นายอามาโนะกล่าวว่า ประเทศอาเซียนจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาความตึงเครียดการเมืองภายในประเทศที่กำลังส่งผลกระทบต่อการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI)
อย่างไรก็ตาม นายอามาโนะกล่าวว่า ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกได้เปลี่ยนจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ไปเป็นภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียใต้ และกลุ่มอาเซียนจะเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขสถิติ FDI ของกลุ่มอาเซียนบ่งชี้ว่า เม็ดเงิน FDI จากกลุ่ม OECD ที่ไหลเข้ามายังกลุ่มอาเซียนยังคงมีอยู่ราว 47% ทั้งในปี 2551 และ 2552 แม้ว่าถูกกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลกก็ตาม
นายซันดราม ปุชปานาธาน รองเลขาธิการสำนักเลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า เม็ดเงิน FDI จากกลุ่ม OECD ที่ไหลเข้าสู่กลุ่มอาเซียนสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มประเทศ OECD ยังคงให้ความสนใจเข้าลงทุนในกลุ่มอาเซียนและยังบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อกลุ่มอาเซียนด้วย