นายยาสึโนริ ทากา ประธานบริหารประจำภูมิภาคเอเชีย บริษัท ฮิตาชิ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้ารางเดี่ยว(MONORAIL) ในประเทศญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์มายาวนาน ดังนั้นเมื่อประเทศไทยมีแผนจะก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว บริษัทฯ จึงมีความสนใจที่จะนำเสนอรูปแบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาการจราจร โดยรถไฟฟ้ารางเดี่ยวของบริษัทฯ มีจุดเด่นเรื่องโครงสร้างขนาดเล็ก ทำให้แสงแดดสามารถส่องถึงพื้นได้ ค่าบำรุงรักษาต่ำ ไม่มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และสามารถออกแบบรถไฟฟ้าให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมได้
นอกจากนี้ การก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยวยังช่วยลดค่าก่อสร้างงานโยธาและงานโครงสร้างได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับโครงสร้างรถไฟฟ้าทั่วไป โดยต้นทุนการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยวของบริษัทฯ อยู่ที่กิโลเมตรละประมาณ 35-50 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณกิโลเมตรละ 1,050-1,500 ล้านบาท
"มั่นใจว่ารถไฟฟ้ารางเดี่ยวของฮิตาชิเหมาะสมกับเมืองไทย เพราะฮิตาชิรู้จักประเทศไทยและจะสามารถออกแบบรถไฟฟ้าให้เหมาะสมกับประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ส่วนปัญหาการเมืองในไทยนั้นจะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศไทย เพราะบริษัทพร้อมที่จะลงทุน ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้นขึ้นอยู่กับรัฐบาลไทยจะเป็นผู้กำหนดว่าจะให้ลงทุนทั้งงานโยธาและระบบ หรือเฉพาะระบบ บริษัทพร้อมและสนใจทุกรูปแบบ" นายยาสึโนริ กล่าว
ด้านนายฮิโนะ ยูจิ นายกสมาคมรถไฟฟ้ารางเดี่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า เทคโนโลยีรถไฟฟ้ารางเดี่ยวของฮิตาชิถือว่ามีความทันสมัย โดยเฉพาะการพัฒนาขนาดของตัวรถไฟฟ้าให้มีขนาดใหญ่ โดยมีความกว้าง 3 เมตร ยาว 15 เมตร ซึ่งเป็นขนาดใหญ่ที่สุดที่กฎหมายญี่ปุ่นกำหนดไว้ ขณะที่ตัวรถไฟฟ้าทั่วไปจะมีความกว้าง 2.50 เมตร ยาว 12 เมตร ส่วนความสามารถในการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยตู้ละ 70-100 คน หรือขบวนละ 280-400 คน
"สมาคมฯ ตั้งเป้าว่าระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวของญี่ปุ่นจะเข้ามามีส่วนร่วมในแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าของไทยอย่างน้อย 4 สายทาง จากทั้งหมด 12 สายทาง โดยสายทางแรกที่จะลงทุนก่อนคือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี" นายฮิโนะ กล่าว