มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจเทศกาลลอยกระทงปีนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมและภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ส่งผลให้มีเงินสะพัดลดเหลือแค่ 9.7 พันล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในวันลอยกระทงปีนี้ว่า การใช้จ่ายปีนี้จะไม่คึกคักนัก มีเงินสะพัดประมาณ 9,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% จากปีก่อนที่มีการใช้จ่าย 9,300 ล้านบาท เนื่องจากประชาชนในหลายพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะในภาคใต้ และภาคกลาง ประกอบกับ เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่ดี ทำให้คนออกมาลอยกระทงน้อย และระมัดระวังการใช้จ่าย
"หากลอยกระทงปีนี้ไม่เจอปัญหาน้ำท่วม และเศรษฐกิจฟื้นตัวดี เชื่อว่าจะคึกคักมาก เงินสะพัดจะสูงถึง 10,300 ล้านบาท เติบโต 10.7% มากสุดในรอบ 6 ปี แต่เมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด ได้ส่งผลกระทบจิตวิทยาให้คนลอยกระทงเพียง 53% ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ลอย 75% ดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าที่เตรียมสินค้าไว้ขายช่วงลอยกระทงจะต้องระวัง ไม่ควรสต็อกของไว้มาก และอาจขายได้ช้า เพราะกำลังซื้อภาคประชาชนยังไม่ดี โดยสินค้าที่ขายดีจะเป็นของราคาปานกลางค่อนไปทางถูก มากกว่าสินค้าหรูหรา" นายธนวรรธน์กล่าว
สำหรับการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 1,390 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ 1,272 บาท แยกเป็น การค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 492 บาท ค่าสังสรรค์ 1,026 บาท กระทง 171 บาท พลุ 186 บาท สุรา 701 บาท ของรับประทาน 602 บาท จัดงานลอยกระทงในบ้าน 261 บาท และอื่นๆ 845 บาท โดยค่าใช้จ่ายรายคนที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสาเหตุราคาสินค้าแพงขึ้นมากกว่ากำลังซื้อเพิ่ม สอดคล้องกับผลสำรวจที่ระบุราคากระทง พลุ อาหาร และดอกไม้ มีแนวโน้มแพงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจประเมินว่า สถานการณ์น้ำท่วมจะไม่กระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจโดยรวม หากรัฐเร่งชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น 70,000-100,000 ล้านบาทได้อย่างรวดเร็ว จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่อง และทั้งปีน่าจะขยายตัวได้ 7.3%