ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเปิดตลาดปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (19 พ.ย.) เพราะได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนขานรับข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และการคาดการณ์ที่ว่าไอร์แลนด์จะสามารถแก้ปัญหาหนี้สาธารณะได้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ที่ 10,124.84 จุด เพิ่มขึ้น 111.21 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดที่ 4,648.80 จุด เพิ่มขึ้น 8.60 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดที่ 8,344.66 จุด บวก 61.21 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดที่ 1,500.81 จุด บวก 4.16 จุด ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดที่ 3,227.23 บวก 12.01 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นมะนิลาเปิดที่ 4,122.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.78 จุด ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 23,625.31 จุด ลบ 12.08 จุด และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเพิ่มขึ้น 0.5% แตะระดับ 2,879.66 จุด
อย่างไรก็ตาม ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 23,625.31 จุด ลบ 12.08 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียโดยรวมได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 22.5 จุดในเดือนพ.ย. จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 1.0 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.0 จุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงที่เศรษฐกิจยังคงเผชิญกับภาวะไม่แน่นอนก็ตาม
นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ไอร์แลนด์ หลังจากนายแพทริก โฮโนฮาน ผู้ว่าการธนาคารกลางไอร์แลนด์คาดว่า ไอร์แลนด์จะตกลงรับเงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เป็นจำนวนหลายหมื่นล้านยูโร เพื่อบรรเทาปัญหาหนี้สาธารณะในประเทศ
หุ้นแคนนอน อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปของญี่ปุ่น ดีดตัวขึ้น 0.9% ในการซื้อขายที่ตลาดโตเกียวเช้านี้ เพราะได้ปัจจัยบวกจากเงินดอลลาร์ที่พุ่งขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเยน ขณะที่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่สุดของโลก พุ่งขึ้น 0.8% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นออสเตรเลีย หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้น ส่วนหุ้นโคมัทสึพุ่งขึ้น 0.7%