องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกในปีหน้าลงเหลือ 4.2% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนพ.ค.ที่ระดับ 4.5% โดยคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้ช้าลง เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศเริ่มสิ้นสุดลง แต่คาดว่าบรรยากาศการลงทุนจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในปี 2555 ด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ 4.6%
โดย OECD ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจรอบครึ่งปีว่า ปัจจัยด้านราคาบ้านที่ปรับตัวลดลงในสหรัฐและอังกฤษ ประกอบกับความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของระดับหนี้สาธารณะจากประเทศอื่นๆ และบรรยากาศทางการค้าที่ไร้สมดุลมากขึ้นทั่วโลกคือ ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก
ด้านนักวิเคราะห์จาก OECD แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับช่วงขาลง โดยมูลค่าทางการค้าที่ไร้สมดุลระหว่างประเทศต่างๆ ยังมีอยู่สูง และในบางประเทศเริ่มที่จะขาดดุลการค้า หรือเกินดุลการค้ากันมากขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลถึงภัยคุกคามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สหรัฐเป็นประเทศที่ OECD คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจช้าที่สุดเพียง 2.7% ในปี 2553 จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะขยายตัวได้ที่ 3.2% และการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอ่อนแรงลงอีกในปี 2554 ไปอยู่ที่ 2.2% ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมาขยายตัวที่ระดับ 3.1% ในปี 2555
สำหรับเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรปคาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 1.7% ในปีนี้และปีหน้า ก่อนที่จะกระเตื้องขึ้นสู่ระดับ 2% ในปี 2555 ขณะที่กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่จะยังคงเป็นแกนนำการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก โดย OECD คาดว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนจะขยายตัวได้ราว 10% ทั้งในปีนี้และปีหน้า ส่วนเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวที่ประมาณ 9% ในปีนี้ และ 8% ในปีหน้า