ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) โดยยูโรทำสถิติแข็งค่าขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าปัญหาหนี้สาธารณะของไอร์แลนด์จะได้รับการบรรเทาผ่านความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู)
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.26% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3679 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดี (18 พ.ย.) ที่ 1.3644 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลง 0.41% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5979 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6045 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.08% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 83.430 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 83.500 เยน และขยับลง 0.12% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9943 ฟรังค์ จากระดับ 0.9955 ฟรังค์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.37% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9856 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9893 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลง 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7781 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7782 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินยูโรยังคงได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่า ไอร์แลนด์จะได้รับเงินช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟเป็นจำนวนหลายหมื่นล้านยูโรเพื่อบรรเทาปัญหาหนี้สาธารณะภายในประเทศ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูนายไบรอัน เลนิแฮน รวม.คลังไอร์แลนด์ ที่มีกำหนดจะเปิดเผยรายละเอียดของแผนปรับลดงบประมาณไอร์แลนด์ 1.5 หมื่นล้านยูโรภายในระยะเวลา 4 ปีในสัปดาห์หน้า รวมทั้งรัฐบาลไอร์แลนด์ที่เตรียมเสนอมาตรการรัดเข็มขัดประจำปี 2011 ต่อรัฐสภาในวันที่ 7 ธ.ค.นี้
ยูโรสแตทซึ่งเป็นสำนักงานสถิติของอียูเปิดเผยว่า ไอร์แลนด์มีตัวเลขขาดดุลงบประมาณถึง 14.4% ของจีดีพีในปี 2552 ขณะที่รัฐบาลไอร์แลนด์คาดว่า ค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือภาคธนาคารจะทำให้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณพุ่งเกือบแตะ 32% ของจีดีพีในปี 2553
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ เปิดเผยว่า อังกฤษมียอดขาดดุลงบประมาณเดือนต.ค.ทั้งสิ้น 9.8 พันล้านปอนด์ (1.56 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นยอดขาดดุลสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2536 ในขณะที่ยอดขาดดุลของปีที่แล้วอยู่ที่ 9.4 พันล้านปอนด์
นายจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลังอังกฤษได้กำหนดเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณให้เหลือต่ำกว่า 2% ของจีดีพีภายในปี 2558 จากปัจจุบันที่สูงถึง 10% ซึ่งการดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าวอาจทำให้รัฐบาลต้องเลิกจ้างงานในหน่วยงานของรัฐกว่า 490,000 ตำแหน่ง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบสอง หรือ QE2 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างไรก็ตาม เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้กล่าวปกป้องการใช้มาตรการ QE2 ในที่ประชุมซึ่งจัดขึ้นที่นครแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนีว่า กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ยังจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนเพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ส่วนปัญหากระแสเงินทุนไหลเข้าจำนวนมากในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่นั้น เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลในประเทศกลุ่มนี้เข้าไปแทรกแทรงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อป้องกันหรือชะลอการแข็งค่าของสกุลเงินในประเทศตนเอง