นายโจเซฟ ซเวจ์ลิช หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเกียวโดว่า กลุ่มประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนาจะยังคงขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วกว่ากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ พร้อมกับแนะนำให้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาใช้มาตรการผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวในระยะยาวอย่างยั่งยืน เช่น การขยายกำลังการผลิต
"กลุ่มประเทศพัฒนาพัฒนาขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แม้ต้องเผชิญกับวิกฤตในภาคการเงินปี 2551 ก็ตาม นี่จึงเป็นเหตุผลที่เรียกร้องให้รัฐบาลในประเทศกลุ่มนี้มุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว ถึงเวลาแล้วที่จะต้องกลับมาคิดถึงการเพิ่มรายได้ในระยะยาว เพื่อต่อสู้กับความยากจนในภูมิภาคแห่งนี้ กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจำเป็นต้องมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาเรื่องหลักๆ ซึ่งได้แก่ การค้า การพัฒนาศักยภาพของบุคลากร การลงทุนในด้านสาธารณูปโภค และการพัฒนาภาคการเงิน" ซเวจ์ลิชกล่าว
เอดีบีคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะขยายตัวในอัตรา 8.2% ในปี 2553 และ 7.3% ในปี 2554 เมื่อเทียบกับการคาดกาณ์อัตราการขยายตัวของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมหลักที่ระดับ 2.2% ในปี 2553 และ 2.0% ในปี 2554
อย่างไรก็ตาม ซเวจ์ลิชกล่าวว่า กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียยังต้องเผชิญปัญหาท้าทายต่างๆ ซึ่งรวมถึงการจัดการกับกระแสเงินทุนไหลเข้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ รวมทั้งความเป็นไปได้ที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะปรับตัวสูงขึ้น