สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรปได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ทองคำปรับตัวขึ้นไม่มากนักเพราะการฟื้นตัวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ส่งผลสกัดช่วงบวกของตลาด
สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.50 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,357.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 1,347.90 - 1,367.40 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 28.20 เซนต์ ปิดที่ 27.461 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 15.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,655.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 19 ดอลลาร์ ปิดที่ 684.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ไมค์ ดาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำจากบริษัท PFGBEST ในเมืองชิคาโก กล่าวกับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซินหัวว่า ในช่วงเช้านั้น สัญญาทองคำทะยานขึ้นแข็งแกร่งหลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับยูโร อันเป็นผลจากข่าวที่ว่าไอร์แลนด์ได้ขอความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการจากไอเอ็มเอฟและสหภาพยุโรป แต่ดอลลาร์เริ่มดีดตัวขึ้นในช่วงบ่าย ซึ่งส่งผลสกัดการพุ่งขึ้นของทองคำด้วย
ดาลียังกล่าวด้วยว่า อีกปัจจัยที่ทำให้สัญญาทองคำถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน มาจากการที่นักลงทุนบางกลุ่มมีท่าทีระมัดระวัง พร้อมกับจับตาดูความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางจีน หลังจากที่ธนาคารกลางไม่ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในไอร์แลนด์และยุโรป ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ยืนยันว่าจะรับเงินช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ไอร์แลนด์ต้องดำเนินการโครงสร้างภาคธนาคารและลดยอดขาดดุลงบประมาณให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3% ของตัวเลขจีดีพี