ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) เนื่องจากข่าวรัฐบาลไอร์แลนด์ยอมรับความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสถานะด้านการคลังของไอร์แลนด์และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของยุโรป นอกจากนี้ ยูโรยังถูกกดดันมากขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่อียูได้ออกมาแสดงความกังวลว่า วงเงินที่ไอร์แลนด์ได้รับความช่วยเหลือครั้งนี้อาจไม่เพียงต่อการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.43% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3625 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ (19 พ.ย.) ที่ 1.3684 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5962 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5984 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.22% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.270 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 83.450 เยน และอ่อนตัวลง 0.14% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9895 ฟรังค์ จากระดับ 0.9909 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดตัวขึ้น 0.27% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9889 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9862 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.55% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7741 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7784 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเทขายสกุลเงินยูโรเนื่องจากความกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์การเงินของไอร์แลนด์อาจลุกลามไปทั่วยุโรป เมื่อเจ้าหน้าที่อียูได้ออกมาแสดงความกังวลว่า วงเงินราว 8-9 หมื่นล้านยูโรที่คาดว่าไอเอ็มเอฟและอียูจะให้ความช่วยเหลือไอร์แลนด์นั้น อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้รัฐบาลไอร์แลนด์สามารถกู้วิกฤตในภาคธนาคาร หรือแก้ปัญหาหนี้สาธารณะภายในประเทศได้ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่อียูทำให้นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวด้านการเงินของประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรโซน รวมถึงสเปนและโปรตุเกส
ไบรอัน โคเวน นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ยืนยันว่า ไอร์แลนด์จะรับเงินช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไอร์แลนด์ด์ต้องเร่งปรับโครงสร้างภาคธนาคารและลดยอดขาดดุลงบประมาณให้อยู่ในระดับไม่เกิน 3% ของตัวเลขจีดีพี ทั้งนี้ แม้ยังไม่มีการเจรจาเกี่ยวกับวงเงินความช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าวงเงินที่ให้ความช่วยเหลือแก่ไอร์แลนด์จะมีมูลค่าต่ำกว่าที่ให้ความช่วยเหลือแก่กรีซเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.10 แสนล้านยูโร (1.50 แสนล้านดอลลาร์)
นักลงทุนจับตาดูรัฐบาลไอร์แลนด์ที่จะเปิดเผยรายละเอียดของแผนปรับลดงบประมาณมูลค่า 1.5 หมื่นล้านยูโรภายในระยะเวลา 4 ปีในสัปดาห์หน้า โดยรัฐบาลไอร์แลนด์คาดว่า ค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือภาคธนาคารจะทำให้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณพุ่งเกือบแตะ 32% ของจีดีพีในปี 2553
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย รวมถึงการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ครั้งที่ 2 ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ตลาดหุ้นและตลาดการเงินของสหรัฐจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า