ออลลี เรห์น คณะกรรมาธิการยุโรปฝ่ายกิจการเศรษฐกิจและการเงิน คาดว่า เศรษฐกิจของยุโรปจะเติบโตในระดับปานกลางจนถึงช่วงกลางปี 2554 ในขณะที่ภาวะการฟื้นตัวยังคงเปราะบางและมีความไม่เท่าเทียมกันในระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก
โดยนายเรห์น กล่าวในที่ประชุมในกรุงบรัสเซลส์ว่า "จังหวะการเติบโตของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหภาพยุโรปจะขขายตัวในระดับปานกลางไปจนถึงช่วงกลางปี 2554 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังมีการอัตราการขยายตัวช้า ส่งผลให้การส่งออกของยุโรปชะลอตัวตามไปด้วย"
นอกจากนี้ นายเรห์นกล่าวเสริมว่า ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่กดดันการเติบโตในระยะสั้นและระยะกลางของยุโรป ซึ่งได้แก่งบประมาณรวมที่รัฐบาลของกลุ่มประเทศสมาชิกอียูกำลังดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม นายเรห์น กล่าวว่า ถึงแม้จะมีแรงกดดันในระยะสั้น ประเทศสมาชิกอียูจำเป็นต้องมีงบประมาณประจำปีที่มีเสถียรภาพด้วยการปรับปรุงงบประมาณและการใช้งบประมาณรวม
"การจัดระเบียบฝ่ายบริหารงบประมาณคงไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอยลงเป็นตัวเลขถึงสองหลัก ในทางตรงกันข้าม มันเป็นความล้มเหลวที่จะรวบรวมหนี้สาธารณะซึ่งอาจบั่นทอนการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจได้" นายเรห์นกล่าวเน้น
ทั้งนี้ ยูโรสแตท ซึงเป็นสำนักงานสถิติของอียู รายงานว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรปลดลงอย่างมากจาก 1% ในไตรมาสที่ 2 เหลือเพียง 0.4% ในไตรมาสที่ 3 สำนักข่าวซินหัวรายงาน