นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มีโอกาสหารือกับพม่าเพื่อพิจารณาสินค้าที่พม่าห้ามนำเข้าจากไทย 15 รายการ ตั้งแต่เดือนพ.ย.42 โดยล่าสุดพม่าแจ้งว่าได้ยกเลิกการห้ามนำเข้าสินค้าแล้ว 7 รายการ คือ แอปเปิ้ล, สาลี่, องุ่น, เชอร์รี่, พุทรา, ส้ม และทุเรียน
ทั้งนี้เห็นว่าผลไม้ที่ไทยมีศักยภาพในการส่งออกมีเพียงรายการเดียวคือ ทุเรียน ดังนั้นจึงขอให้พม่าพิจารณาเพิ่มเติมอีก 4 รายการ คือ เงาะ, มังคุด, ฝรั่ง และลองกอง ซึ่งพม่าเห็นว่าลองกองนั้นสามารถยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าได้ เพราะพม่าไม่มีผลิตภายในประเทศ แต่ผลไม้อีก 3 รายการยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ส่วนสินค้ารายการที่เหลือซึ่งพม่าชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องมีมาตรการห้ามนำเข้าและหลักเกณฑ์การนำเข้าในแต่ละรายการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และบะหมี่สำเร็จรูป โดยสาเหตุที่ต้องห้ามนำเข้าเพื่อปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศ โดยเครื่องดื่มจะอนุญาตให้นำเข้าเฉพาะโรงแรมเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยว, ผลิตภัณฑ์ผงชูรส เพราะมีผลเสียต่อสุขภาพ, ผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋อง, ช็อกโกแลต, หมากฝรั่ง, เหล้า, เบียร์, บุหรี่, ขนมเค้ก, ขนมเวเฟอร์ ขนมปังกรอบ อนุญาตให้นำเข้าเฉพาะโรงแรมและร้านค้าปลอดภาษี, ผลิตภัณฑ์พลาสติกสำหรับใช้ในครัวเรือนและใช้ส่วนตัว
"สินค้า 15 รายการดังกล่าว มีสถิติการนำเข้าน้อยจึงไม่ได้เพิ่มมูลค่าการค้าของทั้ง 2 ประเทศมากนัก ซึ่งไทยเห็นว่าควรเร่งส่งเสริมการค้าในสินค้าปูนซีเมนต์ กระเบื้อง และวัสดุก่อสร้าง ซึ่งไม่ได้อยู่ในรายการสินค้าห้ามนำเข้า เพราะพม่าอยู่ระหว่างพัฒนาประเทศ และมีความต้องการใช้มาก ซึ่งจะสามารถเพิ่มมูลค่าการค้าให้แก่ไทยได้" นายอลงกรณ์ กล่าว