นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ชุดแรกได้ ภายในเดือนธันวาคม 53 นี้
ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ทั้ง 4 แห่ง ที่จังหวัดสงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี เพื่อรวบรวมข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบด้านการเกษตร รวมถึงสวนยางพารา มาประมวลและระดมเจ้าหน้าที่ของสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) เพื่อตรวจสอบความเสียหายจริงที่เกิดขึ้นให้ถูกต้อง รวดเร็วมากที่สุด เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้รับความช่วยเหลืออย่างทันการณ์ สามารถกลับมาประกอบอาชีพได้ตามปกติ
นอกจากการช่วยเหลือในอัตราไร่ละ 6,007 บาท ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไปแล้วนั้น ยังมีการช่วยเหลือให้ปลูกยางพาราใหม่ตามระเบียบ สกย. ว่าด้วยการให้การสงเคราะห์เพื่อปลูกแทน พ.ศ. 2551 และระเบียบ สกย.ว่าด้วยการช่วยเหลือสวนประสบภัยธรรมชาติ พ.ศ. 2538 โดยอนุโลม คือ จ่ายเป็นรายปี เป็นเวลา 6 ปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 11,000 บาทต่อไร่
โดยมีเงื่อนไขว่า เกษตรกรที่อยู่ในความสงเคราะห์ให้ สกย.รับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายปลูกทดแทน และเกษตรกรที่อยู่นอกการสงเคราะห์ หากเปิดกรีดแล้วให้ สกย. รับภาระค่าใช้จ่ายในการปลูกทดแทน ส่วนกรณีไม่เปิดกรีดรัฐบาลจะรับภาระค่าใช้จ่าย
สำหรับการปลูกต้นยางในพื้นที่ไม่เหมาะสม เช่น พื้นที่ลุ่มน้ำ ที่นา หากทำการเปิดกรีดแล้ว สกย.จะดูแลให้ หากยังไม่เปิดกรีดรัฐบาลจะรับภาระแทน โดยมีเงื่อนไขว่าจะแนะนำให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นแทน อาทิ ปาล์มน้ำมัน และไม้ผลชนิดอื่นๆ