นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซี.พี. อินเตอร์ เทรด จำกัด ในฐานะผู้ส่งออกรายใหญ่ กล่าวว่า ข้าวไทยในปีหน้าจะยังสามารถแข่งขันได้ แต่ต้องเน้นการสร้างมูลค่าตลาดให้มากขึ้น สร้างแบรนด์เนม สร้างช่องทางการขายให้มีประสิทธิภาพ รัฐบาลเองก็ควรมีส่วนสนับสนุนด้วย พร้อมเสนอว่า ควรมี Rice Board ที่เป็นคณะกรรมการของเอกชน เพื่อจะได้กำหนดนโยบาย หรือการตลาด
ทั้งนี้ คาดว่าราคาข้าวหอมมะลิปี 54 จะอยู่ที่ระดับ 1,100-1,200 เหรียญ/ตัน จากปัจจุบัน 1,040-1,050 เหรียญ/ตัน ส่วนข้าวขาวคาดว่าราคาจะอยู่ที่ราว 500 เหรียญ/ตัน อย่างไรก็ตาม ต้องดูปัจจัยอื่นประกอบด้วย อาทิ เรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ดีมานด์ซัพพลาย
"ปีหน้าไม่สบายแต่ไม่ทุลักทุเล อุปทาน ปี 54 ไม่ขาดแคลนแต่จะใกล้เคียงกับอุปสงค์ ปีนี้ประมาณ 400 ล้านตัน ซึ่งแต่ละปีบวกเพิ่มขึ้นประมาณ 3-5%" นายสุเมธ กล่าว
นายสุเมธ กล่าวถึงผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมว่า คาดว่าผลผลิตข้าวนาปี 53/54 จะลดเหลือ 21.84 ล้านตัน ลดลง 1.1 ล้านตันจากที่คาดการผลผลิตที่จะออกใหม่ 22.94 ล้านตัน
สำหรับในส่วนของซี.พี .ในปี 54 จะมุ่งเน้นเจาะตลาดแอฟริกามากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ 50% ของตลาดส่วงออกข้าวทั่วโลก โดยแอฟริกาบริโภคข้าวปีละ 8-9 ล้านตัน
ด้าน น.ส.กอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ปัญหางินเบาทแข็งค่าทำให้ข้าวไทยเสียเปรียบคู่แข่งสำคัญอบ่างเวียดนาม โดยขณะนี้ราคาข้าวไทยแพงกว่าเวียดนามถึง 16-17% เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีค่าเงินบาทแข็งค่า 10% ขณะที่เงินดองเวียดนามอ่อนค่าลง 6-7%
"ถ้าไทยมีความเสียหายอะไรเกิดขึ้น เราก็อยากให้คู่แข่งเสียหายตาม อย่างเงินบาทแข็งก็อยากให้ค่าเงินเวียดนามแข็งด้วยเพื่อให้การแข่งขันเป็นไปอย่างใกล้เคียงกัน แต่กลับเป็นว่า บาทแข็ง แต่เงินดองอ่อนเป็นไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกัน อันนี้อันตรายมากๆ ... เบื่อที่จะสู้รบปรบมือกับผู้ไม่รู้ ...คือ ธปท"
"คนที่แข็งค่าเหมือนกับเรา อย่างมาเลเซีย คือคนที่เป็นลูกค้า มันไม่ได้เกิดประโยชน์ สู้ทำให้ค่าเงินของเราแข่งขันกับคู่แข่ง กับสินค้าชนิดเดียวกันถึงจะเกิดประโยชน์มากกว่า"น.ส.กอบสุข กล่าว
ขณะที่นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าว กล่าวว่า ไทยเสียเปรียบด้านการแข่งขันในอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเวียดนามที่ค่าเงินอ่อนกว่า ขณะที่กัมพูชาที่ได้เปรียบเราเรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษี EU ที่เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เราเสียเปรียบ
"เรื่องต้นทุนไม่น่ากลัว แต่เราเก่งกว่าเวียดนาม คือ เวียดนามปลูกข้าว 50 ไร่ ใช้แรงงาน 4 คน ขณะที่ไทยใช้แค่ 2 คน ถ้าเราได้ขายข้าวได้ตันละ 1 หมื่นบาท เงินจะหลุดออกไปนอกประเทศไม่เกิน 2 พันบาทส่วนใหญ่เป็นค่าปุ๋ย ค่ายาปราบศตรูพืช น้ำมัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิต"นายชาญชัย กล่าวง
นายชาญชัย กล่าวถึงโครงการประกันราคาว่า เป็นโครงการที่ดี มาถูกทางถูกต้อง ไม่บิดเบือนตลาด แต่ยังไม่ครบถ้วน เพราะถือเป็นการชี้นำราคาให้กับต่างประเทศอย่างหนึ่ง อย่างกรณีรัฐบาลประกันราคาไว้ที่ 10,000 บาท แต่ราคาในตลาดตกเหลือ 7,000 บาท ต้องชดเชย 3,000 บาท ซึ่งทำให้ต่างประเทศรู้และมาซื้อในช่วงราคาตก เป็นการกดดันราคาทำให้ขายลำบาก