กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.ร่วง 8.1% แตะระดับ 283,000 หลัง จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 308,000 หลังจาก ซึ่งร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 310,000 หลังในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซา อันเนื่องมาจากอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก
รายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ราคาบ้านใหม่โดยเฉลี่ยในเดือนต.ค.อยู่ที่ 248,200 ดอลลาร์ ลดลง 8% โดยยอดขายบ้านใหม่ครอบคลุมถึง บ้านเดี่ยว อพาร์ทเมนท์ และคอนโดมิเนียม
ภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงซบเซา อันเนื่องมาจากผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยาก ซึ่งทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณด้วยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเงินทุน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัจจัยที่ช่วยพยุงตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐไม่ให้ถดถอยลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น เป็นเพราะมาตรการลดหย่อนภาษีของรัฐบาล ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อบ้านหลังใหม่ได้ลดหย่อนภาษีถึง 8,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวได้หมดอายุลงแล้วในช่วงปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวรายงาน