รัฐบาลไอร์แลนด์เปิดเผยว่า ทางรัฐบาลจะลดงบประมาณการใช้จ่ายลง 20% และปรับขึ้นภาษีในอีก 4 ปีข้างหน้า ในขณะที่การเจรจาเรื่องวงเงินให้ความช่วยเหลือไอร์แลนด์ใกล้จะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้
ทั้งนี้ รัฐบาลไอร์แลนด์กล่าวว่า ทางรัฐบาลจะลดการใช้จ่ายด้านสวัสดิการลง 2.8 พันล้านยูโร (3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และจะขึ้นภาษีรายได้เป็น 1.9 พันล้านยูโร รวมทั้งวางแผนที่จะปรับขึ้นภาษีการขายสำหรับผู้บริโภคเป็น 23% ในปี 2557 จากปัจจุบัน 21% และลดสัดส่วนการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้รับเงินบำเน็จบำนาญลงด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลไอร์แลนด์วางแผนที่จะลดต้นทุนการดำเนินงานทั่วประเทศลง 7 พันล้านยูโร และลดการลงทุนในภาครัฐลง 3 พันล้านยูโร รวมทั้งจะลดค่าแรงขั้นต่ำลง 1 ยูโร จากปัจจุบันที่ระดับ 8.65 ยูโรต่อชั่วโมง โดยแผนการทั้งหมดนี้มีเป้าหมายที่จะลดยอดขาดดุลงบประมาณลงเหลือ 3% ของตัวเลขจีดีพีภายในปี 2557 และจะลดยอดขาดดุลงบประมาณในปีนี้ลงเหลือ 12% ของตัวเลขจีดีพี
นายไบรอัน โคเวน นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์กำลังเร่งหาข้อสรุปเรื่องวงเงินช่วยเหลือมูลค่า 8.5 หมื่นล้านยูโรกับสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ขณะที่นายโอลลี เรห์น กรรมาธิการฝ่ายเศรษฐกิจและการเงินของยุโรปเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ไอร์แลนด์จำเป็นต้องผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2554 โดยเร็ว เพราะเกรงว่าความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการคลังของไอร์แลนด์อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศอื่นๆในยุโรปด้วย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลไอร์แลนด์ร่วงลงในวันนี้ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของไอร์แลนด์ลง 2 ขั้น สู่ระดับ A จากระดับ AA- โดยให้แนวโน้มเป็นลบ เพราะเกรงว่าการขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากไอเอ็มเอฟและอียูอาจทำให้รัฐบาลไอร์แลนด์ต้องแบกรับภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นด้วย