นายเกลนน์ สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางของออสเตรเลีย กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียมีแนวโน้มจะลดลงไม่มากในปีหน้า เนื่องจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ออสเตรเลียทำให้สินค้าลดลงเพียงบางรายการ
โดยนายสตีเวนส์ กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้ว่าจะยังคงอยู่ในระดับเดียวกับปัจจุบันในปีหน้า และอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ในระดับเหมาะเมื่อพิจารณาจากทิศทางในระยะสั้น
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคของออสเตรเลียอยู่ที่ระดับ 2.8% ในเดือนกันยายน ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลียได้กำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 2-3%
"การที่เศรษฐกิจขยายตัวในระดับปานกลาง ขณะที่ยอดการค้าเกือบทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติกาล และการขยายตัวของการลงทุนแตะระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปีนั้น ทำให้ความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อในระยะกลางอยู่ในระดับที่สูงเกินไป" นายสตีเวนส์กล่าว
ส่วนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก นายสตีเวนส์คาดว่า จะขยายตัวที่ระดับ 4.75% ในปี 2553 นอกจากนี้ นายสตีเวนส์กล่าวว่า ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน ซึ่งทางธนาคารกลางจะต้องนำมาพิจารณาในการปรับอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม นายสตีเวนส์เชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงไม่มากนัก ส่วนเศรษฐกิจยุโรปจะยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะของไอร์แลนด์และประเทศอื่นๆ สำนักข่าวซินหัวรายงาน