นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า ขณะนี้เงินทุนไหลเข้า-ออกเริ่มมีความสมดุลกัน และไม่ผันผวนมากแล้ว ทำให้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ธปท.ไม่ได้ใช้เงินเข้าไปซื้อดอลลาร์มากนัก โดยสังเกตได้ว่าการเคลื่อนไหวของเงินบาทช่วงนี้เริ่มไปใน 2 ทิศทาง มีทั้งการอ่อนค่าและแข็งค่าประมาณ 2-3 สตางค์
อย่างไรก็ตาม คงไม่สามารถส่งสัญญาณหรือชี้นำการเคลื่อนไหวของเงินบาทในปีหน้าได้ แต่เนื่องจากสถานการณ์ภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลง จึงเป็นไปได้ที่เงินบาทจะแข็งค่าหรืออ่อนค่า แต่ ธปท.พร้อมดูแลไม่ให้เงินบาทผันผวนเกินไป ขณะเดียวกันผู้ที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยง โดยใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่มีอยู่
ทั้งนี้ แรงกดดันต่อเงินบาทยังเกิดจากความไม่แน่นอนจากปัจจัยเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้ ดังนั้น จึงต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพื่อให้รู้ความเสี่ยงในการบริหารจัดการและปรับตัวได้ทันต่อสถานการณ์
"อย่าปักใจว่าเงินบาทจะไปทางไหน ตอนนี้เราก็เห็นทั้ง 2 ทาง...เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เกาหลีเหนือจะหยุดยิงหรือยัง แล้วปัญหาในไทย วันพรุ่งนี้ วันจันทร์ศาลจะเป็นอย่างไร(คดียุบพรรค ปชป.)เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"นายประสาร กล่าว
ผู้ว่า ธปท.กล่าว่า ความจำเป็นของการใช้มาตรการดูแลเงินทุน เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมพร้อม ซึ่ง ธปท.พร้อมดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน ไม่ให้ผันผวนมากเกินไป โดยใช้วิธีที่ดีที่สุดจากเครื่องมือที่มีอยู่หลากหลาย