ไอเอ็มเอฟ-อียูมีมติอนุมัตเงินกู้ฉุกเฉิน 8.5 หมื่นล้านยูโรให้ไอร์แลนด์

ข่าวต่างประเทศ Monday November 29, 2010 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มีมติอนุมัตวงเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่า 8.5 หมื่นล้านยูโร (1.13 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับไอร์แลนด์ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้วิกฤตการณ์การเงินลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรโซน รวมถึงโปรตุเกส และเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นที่มีต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในยูโรโซน

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การรับเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่า 8.5 หมื่นล้านยูโรในครั้งนี้ ไอร์แลนด์จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆที่ครอบคลุมถึงการใช้มาตรการลดงบประมาณการใช้จ่าย 1.5 หมื่นล้านยูโรในอีก 4 ปีข้างหน้า เพื่อให้ยอดขาดดุลงบประมาณปรับตัวลดลง

รายงานระบุว่า วงเงินกู้ฉุกเฉินที่ได้รับการอนุมัตในครั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากกองทุนกลไกสร้างเสถียรภาพการเงินของยุโรป (EFSM) และเงินช่วยเหลือจากสำนักงานกำกับเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งโดยกลุ่มยูโรโซนและไอเอ็มเอฟเพื่อ ซึ่งกองทุนทั้งสองแห่งมีมูลค่ารวม 7.50 แสนล้านยูโร นอกจากนี้ ไอร์แลนด์อาจจะได้รับเงินช่วยเหลือจากอังกฤษ เดนมาร์ก และสวีเดนด้วย

รัฐบาลไอร์แลนด์ให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดงบบประมาณการใช้จ่ายและปรับเพิ่มภาษี โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา นายไบรอัน โคเวน นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ได้เปิดเผยมาตรการรัดเข็มขัดระยะ 4 ปี วงเงิน 1.5 หมื่นล้านยูโร (2.0 หมื่นล้านดอลลาร์) อย่างไรก็ตาม นายโคเวนยอมรับว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อประชาชนไอร์แลนด์ทุกคน แผนการดังกล่าวรวมถึงการลดการจ้างงานในภาครัฐหลายพันตำแหน่ง การขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ตั้งแต่ปี 2556 และการลดสวัสดิการสังคมมูลค่า 2.8 พันล้านยูโรภายในปี 2557 แต่ไม่รวมถึงอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่อยู่ในระดับต่ำมาก ด้านนายโอลี เรห์น หัวหน้าฝ่ายกิจการด้านการเงินของอียูกล่าวว่า แผนการรัดเข็มขัดของไอร์แลนด์จะช่วยเสริมสร้างสถานะการเงินในภาครัฐของไอร์แลนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลไอร์แลนด์คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงจะขยายตัวเฉลี่ย 2.75% ในช่วงปี 2554 - 2557


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ