ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยยอดโอน Q3/53 หด 42%จาก Q2/53,คาดคอนโดฯ ขายดีขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 29, 2010 12:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล พบว่าที่อยู่อาศัยที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 3/53 มีทั้งสิ้นประมาณ 27,000 หน่วย ลดลงร้อยละ 42 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 36 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผู้ซื้อได้เร่งโอนกันไปในช่วงก่อนมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมหมดอายุลงเมื่อสิ้นไตรมาส 2

อนึ่ง หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้แถลงมาตรการเรื่องการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์ โดยกำหนดเกณฑ์ในส่วนของการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายต่ำกว่า 10 ล้านบาท นอกเหนือไปจากที่เคยมีเกณฑ์สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปอยู่แต่เดิมแล้วนั้น อาจทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง มีการเร่งทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดคอนโดมิเนียมมากขึ้นก่อนสิ้นปีนี้ หรืออาจมีการเร่งการโอนกรรมสิทธิ์สำหรับโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อยู่ในเกณฑ์บังคับ ซึ่งน่าจะทำให้คอนโดมิเนียมขายดีขึ้นกว่าปกติในช่วงนี้ไปจนถึงปลายปี แต่สำหรับผู้ที่มิได้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและไม่ได้ซื้อด้วยเงินสดของตนเอง อาจชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปก่อน

สำหรัลจำนวนที่อยู่อาศัยที่โอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 3/53 เป็นอาคารชุดมากที่สุด จำนวนประมาณ 9,350 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 35) ลดลงร้อยละ 49 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 37 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รองลงมาเป็น ทาวน์เฮาส์จำนวน 8,950 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 33) ลดลงร้อยละ 38 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 32 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

บ้านเดี่ยวมีจำนวน 5,000 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 19) ลดลงร้อยละ 40 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 45 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อาคารพาณิชย์จำนวน 2,300 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 9) ลดลงร้อยละ 42 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 41 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และบ้านแฝดจำนวน 1,400 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 5) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

เมื่อพิจารณาในช่วงเวลา 3 ไตรมาสแรกของปี 2553 (มกราคม—กันยายน) มีการโอนกรรมสิทธิ์ซื้อขายที่อยู่อาศัยประมาณ 136,050 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นห้องชุดคอนโดมิเนียมมากที่สุด จำนวน 54,900 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 40) เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาเป็น ทาวน์เฮ้าส์จำนวน 40,800 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 30) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บ้านเดี่ยวจำนวน 23,950 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 18) ลดลงร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อาคารพาณิชย์จำนวน 12,200 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 9) เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และบ้านแฝดจำนวน 4,200 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 3) เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยรวม 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ คิดเป็นประมาณ 295,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นอาคารชุดมากที่สุด มูลค่า 119,600 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 40) เพิ่มขึ้นร้อยละ 66 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาเป็น บ้านเดี่ยวมูลค่า 85,800 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 29) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทาวน์เฮ้าส์มูลค่า 54,100 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 18) เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อาคารพาณิชย์มูลค่า 28,900 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 10) เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และบ้านแฝดมูลค่า 7,500 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 3) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

10 เขตแรกที่มีมูลค่าเฉลี่ยต่อหน่วยของห้องชุดคอนโดมิเนียม(ราคาขายเฉลี่ย)มากที่สุดในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีคือ เขตปทุมวัน มีมูลค่าเฉลี่ยต่อหน่วยอยู่ที่ 16.6 ล้านบาท เขตคลองเตย 9.7 ล้านบาท เขตบางรัก 9.7 ล้านบาท เขตวัฒนา 7.7 ล้านบาท เขตยานนาวา 5.4 ล้านบาท เขตสาทร 4.6 ล้านบาท เขตคลองสาน 4.1 ล้านบาท เขตบางคอแหลม 3.8 ล้านบาท และเขตพระโขนง 3.3 ล้านบาท ตามลำดับ

หน่วยขายใหม่พบว่า 5 เขตที่มีการโอนกรรมสิทธ์ที่อยู่อาศัยแนวราบมากที่สุด คือ อำเภอลำลูกกา ปทุมธานี อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอเมืองสมุทรสาคร และอำเภอบางใหญ่ นนทบุรี ตามลำดับ และ 5 เขตที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดมิเนียมมากที่สุดคือ เขตพระโขนง เขตบางซื่อ เขตบางกะปิ อำเภอเมืองนนทบุรี และเขตคลองสาน ตามลำดับ หน่วยขายมือสอง พบว่า 5 เขตที่มีการโอนกรรมสิทธ์ที่อยู่อาศัยแนวราบมากที่สุด คือ เขตบางกะปิ อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางบัวทอง นนทบุรี เขตบางขุนเทียน และอำเภอลำลูกกา ปทุมธานี ตามลำดับ และ 5 เขตที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดมิเนียมมากที่สุดคือ เขตบางกะปิ เขตพระโขนง เขตบางซื่อ อำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี และอำเภอเมืองนนทบุรี ตามลำดับ

สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดมิเนียมมือสองต่อการโอนห้องชุดคอนโดมิเนียมใหม่ในเดือนกรกฎาคม-กันยายน (หลังหมดมาตรการลดค่าธรรมเนียม) อยู่ที่ประมาณ 45:55 ซึ่งแตกต่างจากในรอบ 6 เดือนแรกที่สัดส่วนการโอนห้องชุดคอนโดมิเนียมมือสองมีน้อยกว่าห้องชุดคอนโดมิเนียมใหม่มากในสัดส่วนประมาณ 30:70 จึงอาจเป็นสัญญาณให้เห็นว่าห้องชุดคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่อาจลดความร้อนแรงลงเมื่อหมดมาตรการสนับสนุนการโอนแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ