นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการสำนักงานการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง การพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ ในงานมหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์นานาชาติ (TICEF) ว่า อังค์ถัดสนับสนุนให้ทั่วโลกใช้นโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในการพัฒนาเศรษฐกิจแต่ละประเทศ เพราะการพัฒนาเศรษฐกิจแบบเดิมๆ เช่น เน้นในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร ภาคบริการ อาจทำให้เศรษฐกิจแต่ละประเทศเติบโตช้า
ดังนั้น จึงต้องหันมาเน้นเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ด้วย เพราะเป็นการสร้างมูลค่าสินค้า และบริการที่เกิดจากความคิดของมนุษย์ เป็นการใช้องค์ความรู้ที่มีในท้องถิ่น สร้างสรรค์ผลงานให้เชื่อมโยงกับรากฐานทางวัฒนธรรม แต่ต้องทำให้คนในท้องถิ่นมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องนี้ด้วย
พร้อมมองว่า เศรษฐกิจของเอเชียจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้เศรษฐกิจโลกในปีหน้าขยายตัวได้ในอัตรา 2-3% แม้ว่าจะลดลงจากปีนี้ที่คาดขยายตัว 3-4% เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงในหลายด้าน โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯยังฟื้นตัวแบบเปราะบาง ส่วนเศรษฐกิจยุโรปยังคงชะลอลง จากปัญหาหนี้สาธารณะที่ยังแก้ไขไม่สำเร็จ รวมถึงอาจเกิดฟองสบู่จากการที่มีเงินร้อนระยะสั้นไหลเข้าสู่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียมากขึ้น จนทำให้เกิดปัญหาความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ ในปีหน้า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรป จะเป็นต้วฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
"เห็นด้วยกับการรวมกลุ่มของอาเซียน ที่เริ่มมีความเข้มแข็งมากขึ้น จนทำให้ทั่วโลกต้องหันมามอง แต่ไม่อยากให้รวมกันเฉพาะด้านเศรษฐกิจ อยากเห็นการรวมกันในด้านอื่นๆ เช่น การใช้ทรัพยากรร่วมกัน เป็นต้น ซึ่งอาเซียนต้องรีบทำให้การรวมตัวกันประสบความสำเร็จ รวมถึงในกรอบอาเซียน+3, อาเซียน+3, และเอเปคด้วย แต่สิ่งที่ต้องระวังขณะนี้คือ ความพยายามของคนนอกกลุ่มที่จะทำให้อาเซียนไขว้เขวในการรวมตัวกัน" นายศุภชัย กล่าว