คณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของ 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ในปี 2553 เป็น 1.7% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 0.9%
อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2554 อาจลดลงแตะที่ระดับ 1.5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อน
โดยคณะกรรมาธิการฯ ระบุว่า อัตราขยายตัวที่ชะลอตัวลงในปีหน้านั้น เป็นเพราะผลกระทบจากมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลหลายประเทศในยูโรโซน เนื่องจากการลดงบประมาณรายจ่ายครั้งใหญ่ของรัฐบาลประเทศต่างๆ อาจส่งผลให้ความต้องการของผู้บริโภคหดตัวลง นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะจำกัดการส่งออกของภูมิภาคด้วย
แถลงการณ์ของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารและกำหนดนโยบายของสหภาพยุโรป (อียู) ระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคกำลังคืบหน้า แต่แนวโน้มเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงมาก โดยปัญหาด้านการคลังที่ประเทศสมาชิกหลายประเทศกำลังเผชิญอยู่นั้น ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุด
สำหรับปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการขยายตัวของภูมิภาคคือ เศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในยุโรป โดยคณะกรรมาธิการฯ คาดว่า จีดีพีของเยอรมนีจะขยายตัว 3.7% ในปีนี้ และ 2.2% ในปีหน้า ส่วนเศรษฐกิจฝรั่งเศสจะขยายตัว 1.6% ในปีนี้และปีหน้า และอิตาลีจะขยายตัว 1.1% ทั้งในปีนี้และปีหน้า
สำหรับกรีซและโปรตุเกสนั้นจะเป็นเพียง 2 ประเทศในยูโรโซนที่ประสบกับภาวะเศรษฐกิจหดตัวในปีหน้า
ด้านไอร์แลนด์ ที่เพิ่งได้รับอนุมัติเงินกู้วิกฤตหนี้สินในประเทศจากอียูและไอเอ็มเอฟ อาจขยายตัวได้ 0.9% ในปี 2554 หลังจากที่หดตัวในปีนี้ เช่นเดียวกับ สเปน ซึ่งถูกจับตาจากตลาดเพราะประสบปัญหาเช่นเดียวกันนั้น ก็ได้รับการคาดการณ์ว่าจะหดตัว 0.2% ในปีนี้ ก่อนที่จะกลับมาขยายตัวอีกครั้งที่ 0.7% ในปีหน้า