นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการในร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน, ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน, ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน และร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการขนส่งมวลชนเป็นกรณีที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ
โดยให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วยแล้วดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ เมื่อร่างพระราชกฤษฎีกา 4 ฉบับมีผลใช้บังคับเป็นกฎหมาย หากกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวแล้ว เห็นว่าหากเนิ่นช้าจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมหรือประโยชน์อื่นของรัฐ ฯลฯ ตามความในมาตรา 13 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ฯ และตามความในมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดหาอสังหาริมทรัพย์ฯ ก็ให้กระทรวงคมนาคมเสนอร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 4 ฉบับ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป