นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า สนพ.อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หน้าโรงกลั่นใหม่ โดยอาจจะมีการยกเลิกเพดานราคาสำหรับ LPG ที่ผลิตจากโรงกลั่นน้ำมันให้ขายให้ในราคาตลาดโลก
"คาดว่าหากรับซื้อ LPG หน้าโรงกลั่นน้ำมันในราคาตลาดโลก จะทำให้มี LPG จากโรงกลั่นน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีก 5-6 หมื่นตันต่อเดือน ซึ่งจะช่วยลดภาระการชดเชยของกองทุนน้ำมันฯ ได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี และจะทำให้โรงกลั่นน้ำมันมีผลประกอบการดีขึ้น ซึ่งทำให้สามารถจ่ายภาษีให้แก่รัฐบาลได้เพิ่มขึ้นด้วย"
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาอนุมัติให้เปลี่ยนการชดเชยส่วนต่างราคา LPG ซึ่งการจ่ายชดเชยที่หน้าโรงกลั่นน้ำมันจะจ่ายเฉพาะในส่วนของราคาเนื้อก๊าซ LPG เท่านั้น ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง ค่าประกันภัย และค่าระวางเรือ โดยจะลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 50 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากปัจจุบันราคาขายถูกกำหนดเพดานให้ขายไม่เกิน 330 เหรียญสหรัฐต่อตัน
สำหรับความคืบหน้าการปรับโครงสร้างราคา LPG เป็น 2 ราคาว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะแยกภาคขนส่งออกไปหรือไม่ โดยนายเมตตา บันเทิงสุข รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาปรับโครงสร้างพลังงาน อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสม
นายวีระพล กล่าวต่อว่า ขณะนี้กำลังเร่งสรุปข้อมูลเกี่ยวกับราคาพลังงานเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน โดยศึกษาทั้งระบบของพลังงานทั้งน้ำมัน ราคาก๊าซ และไฟฟ้า เพื่อนำเสนอต่อนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ที่จะนำเสนอไปยังคณะกรรมการปฏิรูปประเทศอีกครั้ง คาดว่าจะแล้วเสร็จสัปดาห์หน้า
ส่วนความคืบหน้าการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) โดยบมจ. ปตท. (PTT) จะเป็นผู้นำเข้า คาดว่า คลังเก็บ LNG จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/54 ส่วนการนำเข้า LNG ในช่วง 1-3 ปี จะซื้อจากตลาดจร เนื่องจากขณะนี้ราคาค่อนข้างต่ำ สาเหตุมาจากความต้องการ LNG ในสหรัฐฯลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งสหรัฐฯ ขุดพบก๊าซฯ ทำให้การนำเข้า LNG ในสหรัฐฯลดลง ส่งผลให้ราคาลดลงในระยะนี้
ขณะที่มองว่า ราคา LNG ในช่วง 1-2 ปีนี้ไม่น่าจะปรับตัวสูงมากนัก ขณะที่ปริมาณการนำเข้าของไทยในปี 54 เพียง 5 แสนตัน หรือคิดเป็นประมาณ 70 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เมื่อนำมาเกลี่ยกับราคาก๊าซในประเทศคงไม่ทำให้กระทบต้นทุนค่าไฟฟ้ามากนัก
อย่างไรก็ตามมองว่า ราคา LNG จะเริ่มกระทบค่าไฟฟ้าต่อเมื่อการนำเข้าอยู่ที่ระดับ 5 ล้านตัน หรือในอีก 7 ปีข้างหน้า แต่ก็จะมีก๊าซจากแหล่ง M9 ในพม่า เข้าระบบจำนวน 240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ทำให้การนำเข้า LNG ลดลง