นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการว่า ที่ประชุมเห็นชอบขยายระยะเวลาจ้างบริษัท DB INTERNATIONAL GMBH หรือ DBI ออกไปอีก 3 เดือน หรือระหว่างวันที่ 24 ต.ค.53-31 ม.ค.54 วงเงินรวม 40,740,785 ล้านบาท เพื่อทำหน้าที่ดูแลระบบการเดินรถและการบำรุงรักษาในโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือแอร์พอร์ต เรลลิงค์
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังได้อนุมัติการแปรงบลงทุนจำนวน 171 ล้านบาท เพื่อนำเงินมาใช้ในการติดตั้งบันไดเลื่อนเพิ่ม 12 จุด บริเวณสถานีรถไฟพญาไท ราชปรารภ และหัวหมาก รวมทั้งก่อสร้างถนนและลานจอดรถโดยจะใช้วิธีการจ้างแบบพิเศษ เพื่อให้งานแล้วเสร็จทันเดือนม.ค.2554 ซึ่งจะเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารในอัตราปกติ คือ รถไฟฟ้าธรรมดาเที่ยวละ 15-45 บาท จากปัจจุบันเที่ยวละ 15 บาท และรถไฟฟ้าด่วนเที่ยวละ 150 บาท จากปัจจุบัน 100 บาท
"เมื่อรฟท.จัดเก็บค่าโดยสารอัตราปกติ จะทำให้มีรายได้ค่าโดยสารประมาณวันละ 1 ล้านบาท และมีรายได้เชิงพาณิชย์จากค่าโฆษณาไม่ต่ำกว่าปีละ 17 ล้านบาท รายได้จากค่าเช่าพื้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าไม่ต่ำกว่าปีละ 7 ล้านบาท และคาดว่าจะคุ้มทุนในปีที่ 6 ส่วนปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าธรรมดาอยู่ที่วันละประมาณ 4.2 หมื่นเที่ยว รถไฟฟ้าด่วนวันละประมาณ 800 เที่ยว" นายยุทธนา กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทเดินรถไฟซึ่งเป็นบริษัทลูกของรฟท.นั้น อยู่ระหว่างรอการพิจารณาเรื่องเงินทุนจดทะเบียนจำนวน 2,000 ล้านบาทจากครม. เบื้องต้นน่าจะใช้งบประมาณจำนวน 140 ล้านบาท ส่วนเงินที่เหลือ 1,860 ล้านบาท ให้ รฟท.กู้โดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน
นายยุทธนา กล่าวอีกว่า ที่ประชุมอนุมัติให้ประกวดราคางานจ้างเหมาปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 12 โครงการ วงเงินประมาณ 1.89 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรฟท.วงเงินรวม 1.7 แสนล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2554 นี้จะสามารถเบิกจ่ายเงินได้ประมาณ 4.5 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นงบผูกพันในปีถัดไป