ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: วิกฤตหนี้ยุโรป ฉุดยูโรดิ่งหนักในรอบกว่า 2 เดือน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 1, 2010 07:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมาบวกเพียงเล็กน้อยในช่วงปิดทำการซื้อขาย โดยยูโรมีแนวโน้มร่วงลงอย่างต่อเนื่องในเดือนหน้าเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.640 เยน จากระดับ 83.670 เยน และอ่อนตัวลง 0.06% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0035 ฟรังค์ จากระดับ 1.0041 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรขยับขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2984 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2977 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือนในระหว่างวัน ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.06% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5561 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5551 ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.15% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9589 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.9575 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.62% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7422 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7468 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินยูโรดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศเครดิตพินิจ และให้แนวโน้มเชิงลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวที่ A- และระยะสั้นที่ A-2 ของโปรตุเกส ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้ยูโรดิ่งลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1.30 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นมา

นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลที่ว่า ปัญหาหนี้สาธารณะอาจลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยุโรป โดยเฉพาะสเปนและโปรตุเกสที่มีแนวโน้มว่าจะขอความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟและอียู หลังจากที่ไอร์แลนด์ได้รับวงเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่า 8.5 หมื่นล้านยูโร (1.13 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ไปเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.7% เมื่อวานนี้

นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรปมากขึ้นเมื่อนักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่า อิตาลีและเบลเยียมอาจมีสถานะการคลังที่อ่อนแอ และสุ่มเสี่ยงที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟไม่ต่างจากสเปนและโปรตุเกส ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งฉุดสกุลเงินยูโรให้อ่อนแอลง และจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยุโรปด้วย

สำนักงานแรงงานกลางเยอรมนีเปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานในเดือนพ.ย.ลดลง 9,000 คนในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 แต่ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงถึง 20,000 คน

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจในสหรัฐนั้น สมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ชิคาโกเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 62.5 จุด สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 60.0 จุด ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 54.1 จุด จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 49.9 จุด

นอกจากนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนิวยอร์ก ไมอามี และบอสตัน ร่วงลง 0.7% ในเดือนก.ย. หลังจากนโยบายลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกได้หมดอายุลง

นักลงทุนยังติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนต.ค. ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย. และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 9.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ