ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) ระบุว่า จากการที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 2% ต่อปี ซึ่งถือว่าเร็วกว่าคาด จากผลสำรวจนักวิเคราะห์ และ EIC คาดว่า ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในครั้งนี้ จากเหตุผลความกังวลเรื่องการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาแข็งค่าขึ้นซึ่งทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง จึงอาจเป็นโอกาสให้ ธปท. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาด
นอกจากนี้ จากคำแถลงการณ์ของ ธปท. มีแนวโน้มว่าในปีหน้า ธปท.จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นสูงกว่าที่เราคาดไว้เดิมว่าน่าจะมีการปรับขึ้นเพียงราว 50 basis points (bps) เนื่องจาก ธปท.กังวลเรื่องแนวโน้มเงินเฟ้อที่อาจเร่งตัวขึ้นในอนาคตจากแรงกดดันด้านต้นทุน ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี การบริโภคและการลงทุนยังอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น ธปท. จึงมองว่ามีความจำเป็นน้อยลงที่จะต้องคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับที่ต่ำกว่าปกติอย่างในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตจะปรับขึ้นมากหรือน้อย และเร็วหรือช้า ต้องดูเรื่องการแข็งค่าของเงินบาท และแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อด้วย เพราะเมื่อความกังวลต่อสถานการณ์ในยุโรปลดลง ค่าเงินดอลลาร์อาจกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง ซึ่งเมื่อรวมกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. อาจทำให้ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า หรือหากแนวโน้มเงินเฟ้อไม่เร่งขึ้นมากอย่างที่ ธปท. คาด ก็จะส่งผลให้ ธปท. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้จำกัด