องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้เผยแพร่รายงาน "World Economic Situation and Prospects 2011 (WESP)" ซึ่งระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัวลงนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2553 และดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจทุกหมวดบ่งชี้ว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ยูเอ็นคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกปี 2554 จะขยายตัว 3.1% ส่วนในปี 2555 คาดว่า จะขยายตัว 3.5% ซึ่งยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะช่วยให้ตัวเลขการจ้างงานฟื้นตัวขึ้นได้ เนื่องจากทั่วโลกได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเงิน
รายงานดังกล่าวซึ่งจัดทำโดยสำนักงานกิจการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (UNDESA) ระบุว่า อัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง สถานะการคลังที่อ่อนแอ และความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามค่าเงิน เป็นปัจจัยสำคัญที่คุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และยังทำให้ตลาดการเงินมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะไร้เสถียรภาพมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม การขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวต่อไปได้
ยูเอ็นกล่าวว่า ในระยะสั้นนั้น รัฐบาลทั่วโลกจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นการคลังเพื่อช่วยให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น แต่การใช้มาตรการการคลังจำเป็นต้องดำเนินการควบคู่ไปกับนโยบายการเงิน เพื่อกระตุ้นการจ้างงานให้แข็งแกร่งขึ้นและเพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างสมดุลและยั่งยืน
รายงานของยูเอ็นระบุว่า ในบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว หลังจากถูกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงและยาวนานที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐก็เป็นไปอย่างล่าช้า โดยยูเอ็นคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.6% ในปี 2553 และจะขยายตัว 2.2% ในปี 2554 ก่อนที่จะขยายตัวดีขึ้นที่ระดับ 2.8% ในปี 2555 แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะช่วยให้อัตราว่างงานภายในประเทศลดลงได้
ส่วนแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในยุโรปและญี่ปุ่นยังคงซบเซา โดยยูเอ็นคาดว่าเศรษฐกิจยุโรปจะขยายตัวเพียง 1.3% ในปี 2554 และ 1.9% ในปี 2555 ส่วนในปีนี้คาดว่า เศรษฐกิจยุโรปจะขยายตัว 1.6%
ขณะที่เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคํญของเศรษฐกิจโลก แต่คาดว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มนี้จะขยายตัวปานกลางที่ระดับ 6% ในช่วงปี 2554-2555 จากระดับ 10% ในปี 2553 เพราะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และผลที่เกิดจากการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มนี้
ส่วนประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งนำโดยจีนและอินเดียนั้น ยังคงมีอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม คาดว่า เศรษฐกิของประเทศกลุ่มนี้จะขยายตัวปานกลางที่ 7% ในปี 2554 และ 2555
นอกจากนี้ รายงานของยูเอ็นระบุว่า การจ้างงานที่อ่อนตัวถือเป็นจุดอ่อนที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยในช่วงปี 2550-2552 มีประชาชนที่ตกงานอย่างน้อย 30 คนทั่วโลก ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์การเงินโลก
นอกเหนือจากการจ้างงานที่อ่อนตัว โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น ความผันผวนในตลาดปริวรรตเงินตรากำลังส่งผลให้เศรษฐกิจมหภาคผันผวนมากขึ้น โดยรายงานยูเอ็นระบุว่า ความตึงเครียดด้านค่าเงินที่เกิดขึ้นในขณะนี้นั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้นโยบายการเงินที่ขาดความร่วมมือกัน และการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่อาจรวมถึงการเพิ่มเงินเพิ่มในระบบ สำนักข่าวซินหัวรายงาน