นายเอกพจน์ ยอดพินิจ ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์กุ้งของไทยว่า คาดว่าผลผลิตกุ้งที่จะได้โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ต่อไตรมาสที่หนึ่งปีหน้าน้อยลงไปอีก เพราะนอกจากต้องเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นทุกปีเล้ว ยังถูกซ้ำเติมจากน้ำท่วม ทั้งเริ่มมีการพบการระบาดอย่างรุนแรงของโรคไวรัสตัวแดงดวงขาวในหลายพื้นที่ด้วย
"ทุกปีช่วงปลายปีต่อต้นปี เป็นช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น ไม่เอื้ออำนวยต่อการเลี้ยงกุ้ง แต่เอื้อต่อการระบาดของโรค ซึ่งปกติเลี้ยงได้ผลผลิตน้อยอยู่แล้ว...ปีนี้ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะถูกซ้ำเติมจากน้ำท่วมภาคใต้ ที่สร้างความเสียหายต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในหลายพื้นที่ เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ปัตตานี อย่างมาก โดยประมาณ มากกว่า 1,000 บ่อ ความเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 1,400 ล้านบาท (ทั้งที่เสียหายจากน้ำท่วมฉับพลัน และจากไม่มีไฟฟ้าใช้ สำหรับเครื่องตีน้ำ/ให้อากาศ)"
นายเอกพจน์ กล่าวต่อว่า อันที่จริงปีนี้ถือเป็นปีที่ดีของผู้เลี้ยงกุ้งไทย เพราะภาพรวมผลผลิตกุ้งเลี้ยงทั่วโลกน้อย หลายประเทศซึ่งเป็นผู้ผลิตกุ้งรายสำคัญ ก็ยังไม่ฟื้นตัวจากโรคระบาด IMNV เช่น บราซิล อินโดนีเซีย ฯลฯ ขณะที่ความต้องการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างจีน มีแนวโน้มผันตัวเองเป็นผู้นำเข้ากุ้งรายใหญ่ของโลก เพราะผลิตกุ้งได้ไม่พอบริโภคภายในประเทศ ขณะที่คนมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจโลกก็มีแนวโน้มที่ดี กระแสความห่วงใยในสุขภาพ ต้องการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยโดยเฉพาะอาหารทะเล วิกฤตการณ์อ่าวเม็กซิโกแหล่งจับกุ้งธรรมชาติของสหรัฐฯก็เผชิญกับน้ำมันรั่วในอ่าวการใช้สารกำจัดคราบน้ำมันที่เป็นอันตรายและตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อม เหล่านี้เป็นตัวชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่ดีของสินค้ากุ้งจากประเทศไทย