ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุด เป็นประวัติการณ์ที่ 1% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) โดยนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบียืนยันว่า อีซีบีจะขยายนโยบายผ่อนคลายทางการเงินพิเศษ เพื่อแสดงถึงความพร้อมที่จะจัดหาสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์ หลังจากวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปส่งผลให้สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนัก
นายทริเชต์ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า อีซีบีจะยังคงโครงการซื้อหลักทรัพย์ (SMP) โดยอีซีบีได้เริ่มดำเนินการซื้อพันธบัตรผ่านโครงการ SMP ตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และได้เข้าซื้อพันธบัตรไปแล้วด้วยวงเงิน 6.7 หมื่นล้านยูโร (8.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ตาม ทริเชต์ไม่ได้ประกาศว่าจะเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรรัฐบาล
ทั้งนี้ อีซีบียืนยันว่าจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน รวมทั้งการคงอัตราดอกเบี้ย Refinancing Operations (MRO) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ECB ไว้ตามเดิมที่ระดับ 1% และคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดี
"ข้อมูลเศรษฐกิจที่ทางอีซีบีรวบรวมได้ในช่วงที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยุโรปยังคงอยู่ในระยะของการฟื้นตัว แม้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอยู่บ้างก็ตาม ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำตามเป้าหมายของอีซีบี แต่ก็คาดว่าจะดีดตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับเป้าหมาย 2% ในระยะกลางนี้" ทริเชต์กล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อีซีบีได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรปว่าจะขยายตัวราว 1.6 - 1.8% ในปี 2553 และคาดว่าจะขยายตัว 0.7 - 2.1 ในปี 2554 เนื่องจากยอดการส่งออกและอุปสงค์ภายในประเทศมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้