เอแบคโพลล์เผยคนไทยมองศก.แย่ลง ส่วนใหญ่ไร้เงินออม-งดแผนซื้อสินค้าคงทน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 3, 2010 11:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ "ดัชนีผู้บริโภคประจำไตรมาส 4/2553" (ABAC Consumer Index: ACI) พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 58.8% ให้ความคิดเห็นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบันเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4/52 ว่าแย่ลง ส่วนอีก 30% คิดว่าทรงตัว ขณะที่ 11.2% คิดว่าดีขึ้น

และเมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศในอีก 3 เดือนข้างหน้า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 41.6% ยังคิดว่าแย่ลง ส่วนอีก 38% คิดว่าทรงตัว ขณะที่ 20.4% คิดว่าดีขึ้น

เมื่อถามถึงรายได้ในปัจจุบันหากเปรียบเทียบกับไตรมาส 4/52 พบว่า ตัวอย่างเกือบครึ่งหรือ 49.8% คิดว่าแย่ลง ขณะที่ 41.9% คิดว่าทรงตัว และอีก 8.3% คิดว่าดีขึ้น และเมื่อสอบถามถึงรายได้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่ากลุ่มตัวอย่าง 48.6% คิดว่าทรงตัว ส่วนอีก 18.8% คิดว่าดีขึ้น ในขณะที่ 32.6% คิดว่าแย่ลง

สำหรับความเหมาะสมที่จะซื้อสินค้า เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ สินค้าคงทนอื่นๆ (ไม่รวมถึงบ้านและรถยนต์) ในปัจจุบัน พบว่า กลุ่มตัวอย่างเกินครึ่ง 59% ระบุว่าไม่เหมาะสม ส่วนแผนที่จะซื้อสินค้าดังกล่าวในช่วง 3 เดือนข้างหน้านั้น พบว่า กลุ่มตัวอย่างประมาณสองในสาม คือ 63.5% ระบุไม่มีแผน

ที่น่าพิจารณาคือ กลุ่มตัวอย่าง 62.6% ไม่มีเงินเก็บออม และอีก 37.4% มีเงินเก็บออม โดยมีรูปแบบการเก็บออม ใน 3 อันดับแรก คือ การออมเงินฝากกับธนาคาร รองลงมาคือ การทำประกัน และซื้อสลากออมสิน

ผลสำรวจยังพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ถึง 81.7% ไม่ได้วางแผนว่าจะไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดในอีก 3 เดือนข้างหน้า ขณะที่กลุ่มตัวอย่างถึง 97.5% ไม่ได้วางแผนไปเที่ยวต่างประเทศ

อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบคะแนนความสุขของกลุ่มผู้บริโภคต่อการทำงานและการประกอบอาชีพในช่วงเดือนก.ค. และ พ.ย.53 พบว่า กลุ่มผู้บริโภคมีค่าคะแนนความสุขโดยเฉลี่ยจาก 6.82 คะแนนในเดือนก.ค. มาอยู่ที่ 7.39 คะแนนในเดือนพ.ย. จากคะแนนเต็ม 10

อนึ่ง ผลการสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของผู้บริโภคระดับครัวเรือน อายุ 15-60 ปี จำนวน 2,159 ตัวอย่าง จาก 12 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ, ปทุมธานี, ชลบุรี, นครราชสีมา, อุดรธานี, กาฬสินธุ์, เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน, นครสวรรค์, ประจวบคีรีขันธ์, ภูเก็ต และสงขลา ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน—2 ธันวาคม 2553


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ