นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. ได้เชิญนักวิชาการ ผู้บริหารหน่วยงานที่ดูแลด้านเศรษฐกิจต่างๆ และนักวิจัย ประมาณ 40 คน จากหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย ศูนย์วิจัย รวมถึงคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องของภาพรวมเศรษฐกิจ การดำเนินนโยบายการเงิน
การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ มีความเห็นว่า การใช้นโยบายการเงินภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ ธปท.ใช้อยู่ในปัจจุบันมีความยืดหยุ่นพอเพียงต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน นอกจากนี้ สภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว ธปท.ควรมีเครื่องมือในการดูแลและรองรับให้เพียงพอต่อสถานการณ์
"เนื่องจากในระยะข้างหน้า ความไม่แน่นอนจากภาวะเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายของประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะผลของมาตรการ Quantitative Easing ของสหรัฐและผลกระทบจากนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศต่างๆ ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะมีผลกระทบต่อประเทศไทยมากน้อยเพียงใด ในส่วนของธปท.เอง ได้เตรียมรับมือด้วยการใช้กรอบนโยบายการเงินที่ยืดหยุ่น มีเครื่องมือที่หลากหลายและเพียงพอ ตลอดจนการใช้ประโยชน์ของมาตรการด้าน Macro Prudential เข้ามาเสริมกับการใช้ดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อดูแลเสถียรภาพของเศรษฐกิจในภาคส่วนต่างๆ" ผู้ว่าธปท. กล่าว
สำหรับข้อคิดเห็นที่ได้จากการพบปะกับผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่างๆ ในเรื่องของเศรษฐกิจร่วมกันในวันนี้ จะได้นำไปทบทวนและปรับปรุงการทำงานของแบงก์ชาติ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสอดประสานกับการดำเนินนโยบายของหน่วยงานต่างๆได้ดียิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันต่อไป
อนึ่ง การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักวิชาการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Visit BOT หรือ“ ทำความรู้จักกับ ธปท." มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนกับ ธปท. และเป็นโอกาสที่ผู้บริหารของ ธปท. และหน่วยงานต่างๆ ได้ทำความรู้จักและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ซึ่ง ธปท. ได้จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2548