นักวิเคราะห์คาดว่า จีนอาจกำหนดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจที่ 8% ในปีหน้า และอาจเปลี่ยนไปใช้นโยบายทางการเงินจากผ่อนคลายในระดับปานกลางเป็นนโยบายที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น
โดยการประชุม Central Economic Work Conference ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ จะมีการกำหนดทิศทางของนโยบายการควบคุมในระดับมหภาคของจีนสำหรับปี 2554
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการกลางประจำสำนักงานการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) มีความเห็นว่า จีนควรเปลี่ยนไปใช้นโยบายทางการเงินที่รัดกุมมากขึ้นในปีหน้า จากนโยบายที่ผ่อนคลายในปีนี้ เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อและรักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจให้อยู่ในจังหวะที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน จีนจะต้องใช้นโยบายด้านการคลังแบบเชิงรุก
นอกจากนี้ สำนักงานฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเร่งรัดการปฏิรูปการพัฒนาเศรษฐกิจยังถือเป็นเป้าหมายหลักในปีหน้า และการกำกับดูแลในระดับมหภาคจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน มีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เหล่านักวิเคราะห์เชื่อว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของจีนจะซับซ้อนและพบกับความลำบากมากกว่าเดิมในปีหน้า โดยความซับซ้อนในที่นี้หมายถึงเศรษฐกิจจีนจะเผชิญกับความผันผวนมากขึ้นและสภาพแวดล้อมภายนอกที่ย่ำแย่ลง
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวร้อนแรงเกินไปในช่วงของแผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 12 (2554-2559) ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการควบคุมในระดับมหภาค
หวัง เต๋า หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก ยูบีเอส ซิเคียวริตี้ส์ ของจีน กล่าวว่า จีนกำลังเผชิญกับอุปสงค์จากภายนอกที่อ่อนแอกว่าคาดการณ์ เนื่องจากการชะตัวของภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ระบุถึงปัจจัยที่อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงดังต่อไปนี้ ภาวะฟองสบู่ของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราการจ้างงาน โครงสร้างทางการเงินของท้องถิ่น ความขัดแย้งทางการค้า ความมั่นคงทางสังคม และการพัฒนาที่ไม่สมดุลของเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค
แหล่งข่าวรายงานว่า จีนจะกำหนดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจไว้ที่ 8% ในปี 2544 หากจีนสามารถแก้ปัญหาที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจประเทศได้
เหลียน ปิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากแบงค์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่นส์ คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตสูงกว่า 9% ในปี 2554 ซึ่งเป็นความคิดเห็นที่สอดคล้องกับวาณิชธนกิจต่างประเทศอีกหลายแห่ง ส่วนเป้าหมายเศรษฐกิจในช่วงปี 2554-2559 คาดว่า จะมีอัตราการเติบโตอยู่ในช่วง 7-7.5%
สำหรับมุมมองต่อแรงกดดันด้านราคาสินค้าที่สูงขึ้นนั้น แหล่งข่าวคาดว่า เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อของจีนจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4% ในปีหน้า ในขณะที่เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อจะอยู่ที่ประมาณ 6.5 ล้านล้านหยวน
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนจะยังอยู่ในระดับสูงกว่า 4% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554
นอกจากนี้ จีนยังได้เปลี่ยนนโยบายในการควบคุม โดยรัฐบาลได้ส่งสัญญาณว่า จะใช้โยบายทางการเงินที่ระมัดระวังในปีหน้า ในขณะที่ใช้นโยบายงบปะมาณที่เข้มงวดนั้น โดยจีนได้เริ่มเพิ่มความเข้มข้นในการใช้นโยบายทางการเงินตั้งแต่ปีนี้ โดยในเดือนตุลาคม จีนได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเมื่อเดือนพฤศจิกายนธนาคารกลางจีนได้เพิ่มเพดานอัตราสำรองเงินฝากเป็น 2 เท่า
ทั้งนี้ ตลาดเชื่อว่า จีนกำลังจะเริ่มเข้าสู่วัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยโนมูระ ซิเคียวริตี้ส์ คาดว่า จีนอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% ถึง 4 ครั้งในปี 2554 รวมทั้ง จะขึ้นอัตรา RRR ครั้งละ 0.50% ถึง 3 ครั้ง
ส่วนในเรื่องของนโยบายการคลังนั้น ตลาดคาดว่า รัฐบาลจีนจะให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายทางด้านการศึกษา การแพทย์ เทคโนโลยี และความมั่นคงของชุมชนในปี 2554 สำนักข่าวซินหัวรายงาน