กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ได้จัดทำรายชื่ออุปกรณ์ทางเทคนิคและผลิตภัณฑ์ที่ล้าสมัยของกลุ่มอุตสาหกรรม 8 กลุ่ม ได้แก่ เหล็ก เคมี และ สิ่งทอ ที่ควรจะมีการกำจัด เนื่องจากสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติและสร้างมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อม
-- เจียง เจ้าจุน เลขาธิการสภาส่งเสริมพลังงานไฟฟ้าของจีน คาดว่า ราคาถ่านหินของจีนในปี 2554 มีแนวโน้มว่า จะไม่ลดลงไปต่ำกว่าระดับราคาถ่านหินในปัจจุบัน ในขณะที่มีแนวโน้มว่าจะไม่ปรับตัวขึ้นมากไปกว่านี้ เนื่องจากการคัดค้านในกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าพลังความร้อน
โดยนายเจียงระบุว่า ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนมีความกดดันสูง ส่งผลให้มีความคาดหวังสูงต่อการปรับขึ้นราคาของไฟฟ้าออน กริดในตลาด
-- ราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูงและการเข้าสู่ช่วงขาลงของอุตสาหกรรมพลังงานในปีนี้ ส่งผลให้บริษัทพลังงานมีการควบและรวมกิจการกันมากขึ้น โดยโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหลายแห่ง เช่น หัวเตี้ยน พาวเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ป และ หัวอึง พาวเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ได้ประกาศแผนในการควบกิจการ
ทั้งนี้ ข้อเสนอในการควบกิจการมีแนวโน้มว่า จะช่วยกระจายโครงสร้างการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแบบเก่าโดยการนำทรัพย์สินพลังงานสะอาดและไฮโดรเพาเวอร์มาใช้
-- อุตสาหกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของจีนได้เข้าสู่ช่วงสูงสุดของการพัฒนาสำหรับทศวรรษข้างหน้า และการลงทุนในอุตสาหกรรมคาดว่า จะทะยานขึ้นเป็น 1-1.5 เท่า จากแผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 11 ไปจนถึงแผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 12
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ได้มีมุมมองที่ดีต่ออุตสาหกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งแนะนำให้ถือครองหุ้นบริษัทชั้นนำของอุสาหกรรมในระยะยาว
-- บริษัท หัวเตี้ยน พาวเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 ธ.ค.) ว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังลมขนาด 49.5 เมกกะวัตต์ ในเมืองหนิงเซี๊ยะของบริษัทได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการปฏิรูปและพัฒนาของเมืองหนิงเซี๊ยะเรียบร้อยแล้ว
โดยแถลงการณ์ของบริษัทระบุว่า โครงการดังกล่าวมีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 480 ล้านหยวน โดยในปี 2553 โครงการโรงไฟฟ้าพลังลมที่ได้รับอนุมัติของหัวเตี้ยน พาวเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีกำลังการผลิตรวมกันทั้งสิ้น 247.5 เมกกะวัตต์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน