ครม.ไฟเขียวราคาอ้อยขั้นต้นปี 53/54 บวกเงินช่วยชาวไร่รวม 1,050 บ./ตันอ้อย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 7, 2010 15:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวัชระ กรรณิกา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2552/2553 ตามที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายเสนอ โดยกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายเป็นรายเขต ในอัตราตันอ้อยละ 999.71 บาท ณ ระดับค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. กำหนดอัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อยเท่ากับ 59.98 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตฯ ขั้นสุดท้าย เท่ากับ 428.45 บาทต่อตันอ้อย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ

พร้อมทั้ง เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2553/2554 ตามที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายเสนอ ในอัตราตันอ้อยละ 945.00 บาท ณ ระดับค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. โดยกำหนดอัตราขึ้น/ลง ของราคาอ้อยเท่ากับ 56.70 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2553/2554 เท่ากับ 405.00 บาทต่อตันอ้อย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ

นอกจากนี้ ครม.อนุมัติและเห็นชอบการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ทั้ง 3 ข้อ ได้แก่ 1.อนุมัติให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกู้เงิน (Straight loan) จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามมาตรา 27 (6) แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เพื่อนำมาช่วยเหลือชาวไร่อ้อยในอัตราตันอ้อยละ 105.00 บาท โดยให้จ่ายตรงให้กับชาวไร่อ้อยในทุกตันอ้อยที่ส่งเข้าหีบในโรงงานน้ำตาลทรายในฤดูการผลิตปี 2553/2554 จากประมาณการผลผลิตอ้อยเบื้องต้นที่ 66 ล้านตัน รวมเป็นจำนวนเงินประมาณ 6,930 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) หรือจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายตามปริมาณอ้อยเข้าหีบจริงฤดูการผลิตปี 2553/2554

2.เห็นชอบให้แก้ไขเพิ่มเติมการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2551 ที่เห็นชอบให้ปรับขึ้นราคาขายน้ำตาลทรายอีกกิโลกรัมละ 5.00 บาท เพื่อเป็นรายได้ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย สำหรับนำไปชำระ หนี้ให้แก่ชาวไร่อ้อย โดยให้กองทุนสามารถนำเงินรายได้จากส่วนที่ปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายดังกล่าวไปใช้ในการช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยเข้าหีบในโรงงานน้ำตาลฤดูการผลิตปี 2553/2554 ด้วย

3.อนุมัติแนวทางการจัดการภาระหนี้ของกองทุนในส่วนของชาวไร่อ้อยซึ่งมีอยู่เดิม ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2553 จำนวน 4,062 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) รวมกับที่จะขอกู้เพิ่มจากการประมาณการเบื้องต้นอีกจำนวน 6,930 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) รวมเป็นเงินประมาณ 10,992 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) เห็นควรให้กองทุนดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้กับ ธ.ก.ส.ให้สอดคล้องกับสถานะทางการเงินของกองทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ