นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงบประมาณได้รายงานถึงผลการปรับเปลี่ยนรายละเอียดโครงการของแต่ละหน่วยงานเพื่อให้สอดคล้องกับการนำไปใช้ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย พบว่าล่าสุดจนถึงขณะนี้มีเพียง 2 หน่วยงานที่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการตามแนวทางดังกล่าว คือ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำกับที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า หากถึงวันที่ 8 ธ.ค.53 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดการแจ้งเปลี่ยนแปลงโครงการแล้วยังไม่มีหน่วยงานใดแจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงการเข้ามา ก็จะมอบหมายให้สำนักงบประมาณเป็นผู้พิจารณารายละเอียดแต่ละโครงการและสามารถเปลี่ยนแปลงโครงการเพื่อนำมาให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยได้เอง
"นายกฯ กำชับว่า ภายในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงการ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะยึดเงินงบประมาณกลับเข้ากองกลาง เพื่อนำไปใช้ในภารกิจเร่งด่วน คือการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย" นายวัชระ กล่าว
ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีเคยมีมติอนุมัติหลักเกณฑ์ให้ส่วนราชการต่างๆ ปรับเปลี่ยนจากรายการที่กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีมาใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ว่ามาจาก 1.รายการที่ไม่มีข้อผูกพันสัญญา 2.รายการที่ได้ทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว แต่ผลการดำเนินงานล่าช้าไม่เป็นไปตามแผน และ 3.รายการที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนสามารถชะลอหรือระงับไว้ก่อนได้