ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร หลังโอบามาขยายโครงการลดหย่อนภาษี

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 8, 2010 07:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐจะขยายโครงการลดหย่อนภาษี แม้นักลงทุนบางกลุ่มกังวลว่าโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้สหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นก็ตาม

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.32% สู่ระดับ 1.3262 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ (6 ธ.ค.) ที่ 1.3305 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.36% แตะที่ 1.5766 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5710 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.02% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.480 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 82.640 เยน และดีดตัวขึ้น 0.62% เมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ระดับ 0.9875 ฟรังค์ จากระดับ 0.9814 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.61% แตะระดับ 0.9838 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ 0.9898 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.41% แตะระดับ 0.7577 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7608 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโอบามาและแกนนำพรรครีพับลิกันตกลงที่จะขยายโครงการลดหย่อนภาษีที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้ริเริ่มเอาไว้ พร้อมทั้งขยายขอบข่ายโครงการให้สวัสดิการแก่ผู้ไม่มีงานทำ ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางกลุ่มกังวลว่า การขยายโครงการลดหย่อนภาษีอาจส่งผลให้ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐพุ่งขึ้นอีก แต่ถึงกระนั้นก็ตาม สำนักงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ (CBO) คาดว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐจะอยู่ที่ 1.34 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2553 ซึ่งต่ำกว่ายอดขาดดุลในปีงบประมาณ 2552 อยู่ประมาณ 7.1 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้มีรายงานว่า คณะกรรมการควบคุมการขาดดุลงบประมาณซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยประธานาธิบดีได้เสนอแผนการลดงบประมาณการใช้จ่ายจำนวนมหาศาล โดยมีเป้าหมายที่จะลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐลงราว 4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรป หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงคลังของกลุ่มยูโรโซนมีมติไม่เพิ่มวงเงินกองทุนช่วยเหลือประเทศยูโรโซนที่ประสบปัญหาหนี้สิน ซึ่งปัจจุบันกองทุนดังกล่าวมีมูลค่า 7.50 แสนล้านยูโร หรือประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีคลังมองว่ากองทุนมีวงเงินที่สูงพอแล้ว

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษในเดือนต.ค.ขยายตัวขึ้น 0.6% จากเดือนก.ย. ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. ขณะที่อัตราการขยายตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 5.8%

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนต.ค. ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนต.ค. และรายงานงบประมาณประจำเดือนพ.ย.ของรัฐบาลกลางสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ