ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่มี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เป็นประธานวันนี้ มีมติให้ลดการจัดเก็บเงินจากน้ำมันดีเซล B5 เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง 50 สตางค์/ลิตร หรือจากปัจจุบันที่เรียกเก็บอยู่ในอัตราลิตรละ 65 สตางค์/ลิตร ลดลงเหลือแค่ 15 สตางค์/ลิตร
ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ผู้ค้าจะปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล B3 ลงลิตรละ 30 สตางค์ เนื่องจากค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันอยู่ในอัตราต่ำเฉลี่ยประมาณ 1 บาท/ลิตร ส่วนน้ำมันดีเซล B5 ยังเท่าเดิม ส่งผลให้ราคาขายปลีกตามสถานีบริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นดังนี้ ดีเซล B3 อยู่ที่ลิตรละ 29.99 บาท ส่วนดีเซล B5 อยู่ที่ลิตรละ 29.09 บาท
อย่างไรก็ตาม หากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล B3 ปรับเพิ่มขึ้นจนเกิน 30 บาท/ลิตรอีกครั้ง ก็คงต้องใช้มาตรการอื่นเข้ามาช่วยให้ราคาลดลงมา เช่น การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังจะต้องเป็นผู้พิจารณา
รมว.พลังงาน กล่าวว่า การปรับลดการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ครั้งนี้ ทำให้กองทุนฯ ติดลบเดือนละ 537 ล้านบาท จากเดิมที่ติดลบเดือนละ 89 ล้านบาท
สาเหตุที่ไม่สามารถปรับลดการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ได้มากกว่านี้เนื่องจากกองทุนฯ มีภาระต้องชดเชยราคาแก๊สโซฮอล และราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) แม้ปัจจุบันสถานะกองทุนฯ จะมีเงินอยู่ประมาณ 28,674 ล้านบาท แต่ก็ต้องเก็บไว้สำหรับการชดเชยราคาพลังงานเหล่านี้ เพราะแนวโน้มทั้งราคาเอทานอล ราคาน้ำมันปาล์มดิบ และแอลพีจี ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง