World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 9, 2010 09:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) ขานรับข่าวประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ และแกนนำพรรครีพับลิกันที่สามารถบรรลุข้อตกลงการขยายโครงการลดหย่อนภาษี ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ช่วงบวกของตลาดถูกสกัดลงเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ฉุดราคาหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ดิ่งลงด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 13.32 จุด หรือ 0.12% แตะที่ 11,372.48 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 4.53 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 1,228.28 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 10.67 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 2,609.16 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาตัดสินใจขยายโครงการลดหย่อนภาษียังทำให้นักลงทุนคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น จึงได้ตัดสินใจลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 25.80 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,383.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,405.40 - 1,372.10 ดอลลาร์

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นพุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงอ่อนแอ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.46% ปิดที่ 88.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.33 - 88.99 ดอลลาร์

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) โดยดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการขยายโครงการลดหย่อนภาษีของสหรัฐจะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น ขณะที่สกุลเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.02% แตะที่ 1.3260 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคาร (7 ธ.ค.) ที่ 1.3263 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดีดขึ้น 1.5805 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5759 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 84.020 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 83.480 เยน แต่อ่อนตัวลง 0.13% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9861 ฟรังค์ จากระดับ 0.9874 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.55% แตะที่ 0.9785 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9839 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.7464 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7574 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ฉุดราคาหุ้นเหมืองแร่ร่วงลง อย่างไรก็ตาม ดัชนีปรับตัวลงไม่มากนักเพราะตลาดได้แรงหนุนจากดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากรัฐบาลสหรัฐตกลงขยายโครงการลดหย่อนภาษี รวมทั้งกระแสข่าวควบรวมกิจการในภาคเอกชน

ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 13.92 จุด หรือ 0.24% แตะที่ 5,794.53 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,774.28 - 5,826.59 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ