ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน พ.ย.53 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 70.3 ลดลงจาก 71.6 ในเดือน ต.ค.53 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำ อยู่ที่ 70.5 ลดลงจาก 71.5 ในเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 96.3 ลดลงจาก 97.4 ในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นทุกรายการปรับตัวลดลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 2
สำหรับปัจจัยลบ ได้แก่ ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนและส่วนราชการ ตลอดจนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับภาคเกษตรกรรม, อุตสาหกรรม, ภาคบริการ และการท่องเที่ยว, ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น, ความกังวลต่อภาวะเงินบาทแข็งค่าที่อาจจะส่งผลต่อเศรษฐกิจในอนาคต, ภาวะราคาสินค้าและค่าครองชีพที่ยังทรงตัวสูง ในขณะที่รายได้ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้น และผู้บริโภคยังกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในอนาคต
อย่างไรก็ดี ในเดือน พ.ย.53 ยังคงมีปัจจัยบวกสำคัญ คือ สภาพัฒน์ปรับคาดการณ์ GDP ในปีนี้ขึ้นเป็น 7.9% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 7.0-7.5%, ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์กรณีใช้เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทผิดวัตถุประสงค์, การค้าระหว่างประเทศยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง, ภาวะเงินบาทแข็งค่าสะท้อนว่ายังมีเม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้าลงทุนในไทย และเริ่มมีเม็ดเงินจากโครงการไทยเข้มแข็งเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ