นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ผู้บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) และบมจ.โทเทิ่ล แอ็กเซส คอมมูนิเคชั่น(DTAC) แถลงเรียกร้องความเป็นนธรรมจากรัฐบาลเมื่อวานนี้ว่า ไม่เข้าใจว่าผู้บริหารของทั้ง 2 ค่าย โดยเฉพาะทางเอไอเอสมีเจตนาอะไรที่ออกมากล่าวหารัฐบาล
“ผมก็ไม่เข้าใจว่าผู้บริหารเอไอเอสมีเจตนาอะไรที่มากล่าวหารัฐบาลในเรื่องนี้ อาจจะเป็นเพราะว่ามันมีปัญหาความขัดแย้งเดิมหรือเปล่าในสัญญาที่ถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการชุดต่าง ๆ และก็มีเรื่องของสัญญาที่อาจไปเอื้อประโยชน์กันในอดีตแล้วก็ต้องมีการดำเนินการ เพราะในเรื่องนี้รัฐบาลได้แสดงจุดยืนชัดเจนในการผลักดันเร่งรัดตามอำนาจหน้าที่ของรัฐบาล ส่วนที่ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของรัฐบาล ผู้บริหารเอไอเอสย่อมทราบอยู่แล้วว่าไม่ใช่เรื่องที่จะมากดดันรัฐบาล"นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนออกเดินทางไปเยือนลาวในวันนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องการเปิดประมูลใบอนุญาต 3G ทุกบริษัทก็ทราบอยู่แล้วว่าไม่ใช่อำนาจของรัฐบาล ส่วนอำนาจของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)ก็อยู่ในขั้นตอนการวินิจฉัยของศาลปกครอง ไม่ได้เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลก็ได้เร่งรัดกฎหมาย กสทช.จนผ่านการพิจารณาของสภาแล้ว และได้พูดชัดเจนในการเตรียมตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ(กสทช.)
ส่วนเรื่องที่ทางภาคเอกชนระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เคยได้รับหนังสือจาก ADVANC จึงไม่ทราบเจตนาแน่ชัดที่ออกมาพูดว่ารัฐบาลไม่ได้ดำเนินการอะไร จึงไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไร ส่วนกรณีของ DTAC ยอมรับว่าเคยได้รับหนังสือร้องเรียน และได้ส่งหนังสือต่อไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ซึ่งรมว.ไอซีทีก็ได้รายงานมาเบื้องต้น และยืนยันว่าเขาไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่ทั้งนี้หากมีข้อข้องใจก็สอบถามกันได้
“ผมข้องใจผู้บริหารเอไอเอสว่ามีเจตนาอะไร เพราะว่าผมก็ไม่ได้มีการดำเนินการอะไรที่เป็นสิ่งที่ไปกระทบกระเทือนสร้างความเสียหาย ยกเว้นทำหน้าที่ตามกฎหมายในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ...ผมเข้าใจเวลาที่บริษัทร้องเรียนมาอะไรต่าง ๆ หน่วยงานมีความเห็นอย่างหนึ่ง หากมีความเห็นไม่ตรงกันก็สามารถร้องเรียนได้ไม่มีปัญหา แต่ที่ผมข้องใจคือเอไอเอสเพราะว่าไม่ได้มีการร้องเรียนมาแล้วบอกว่าร้องเรียนมา"นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันว่าพร้อมให้ความเป็นธรรม ซึ่งที่ผ่านมาภาคธุรกิจประสบปัญหาก็มีช่องทางเสนอผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.)และมีช่องทางในการปรึกษาหารือกันได้เกือบตลอดเวลา รัฐบาลให้ความเป็นธรรมทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นหากมีอะไรก็สามารถดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้แล้วได้