สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) หลังจากที่ฟิทช์ เรตติ้งส์ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐก็อ่อนค่าเมื่อเทียบเงินสกุลหลักอื่นๆ
เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.11% แตะที่ 1.3242 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร จากระดับของวันพุธ (8 ธ.ค.) ที่ 1.3256 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์ก็อ่อนค่าลง 0.21% แตะที่ 1.5771 ดอลลาร์สหรัฐ/ปอนด์ จากระดับ 1.5804 ดอลลาร์สหรัฐ/ปอนด์
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า 0.40% แตะที่ 83.690 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 84.030 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนค่า 0.36% แตะ 0.9830 ฟรังค์/ดอลลาร์สหรัฐ จาก 0.9866 ฟรังค์/ดอลลาร์สหรัฐ
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่า 0.59% แตะที่ 0.9844 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9786 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ก็แข็งค่า 0.35% แตะที่ 0.7495 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จาก 0.7469 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ฟิทช์ เรตติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ 3 ขั้นจากระดับ A สู่ระดับ BBB+ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นอันดับ 3 โดยให้เหตุผลว่าไอร์แลนด์ต้องใช้ต้นทุนมหาศาลในการปฏิรูประบบธนาคารในประเทศ รวมถึงการที่ไอร์แลนด์ขาดช่องทางในการเข้าถึงเงินทุนในตลาด ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเกิดความวิตกอีกระลอกในเรื่องวิกฤตหนี้สินของไอร์แลนด์
นอกจากนั้นนักลงทุนยังวิตกเรื่องความไม่แน่นอนของมาตรการกู้วิกฤตหนี้สินของไอร์แลนด์ เนื่องจากพรรคแรงงานของไอร์แลนด์ประกาศว่าสัปดาห์หน้าจะโหวตต่อต้านการรับเงินช่วยเหลือมูลค่า 8.5 หมื่นล้านยูโรจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่าถึงไม่มีเรื่องไอร์แลนด์ เงินยูโรก็จะยังคงได้รับแรงกดดัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเรื่องปัญหาหนี้สินในประเทศอื่นในเขตยูโรโซน โดยเฉพาะสเปน