กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.9% จากเดือนก.ย. แตะระดับ 4.271 แสนล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 9.9% จากปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายในภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค.แตะระดับ 3.621 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนสต็อกสินค้าคงคลังของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.6%
ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งที่เพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.บ่งชี้ว่า ความต้องการสินค้าด้านการเกษตร รวมถึงธัญพืชและอาหารสัตว์ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 25.9% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2552
การเพิ่มขึ้นของสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจและค้าปลีกสะท้อนให้เห็นว่า ภาคการผลิตของสหรัฐยังมีแนวโน้มสดใสเนื่องจากความต้องการสินค้าภายในประเทศมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การปรับเพิ่มสต็อกสินค้าของภาคธุรกิจและภาคค้าส่งยังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยตั้งแต่ช่วงปี 2550-2552
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขสต็อกสินค้าทั้งในภาคค้าส่งและภาคธุรกิจเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการคำนวณผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และตัวเลขดังกล่าวมีอิทธิพลต่อการประเมินวงจรทางธุรกิจและการขยายตัวของเศรษฐกิจ