สำนักงานสถิติแห่งชาติอินเดียรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอินเดียในเดือนต.ค.พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 10.8% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตได้ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจอินเดียที่ขยายตัวโดยเฉลี่ย 8.5% ในเดือนต.ค.
รายงานระบุว่า การผลิตในเหมืองแร่ อุตสาหกรรมการผลิต และการผลิตไฟฟ้า พุ่งขึ้น 6.5% 11.3% และ 8.8% ตามลำดับ ส่วนการผลิตอุปกรณ์การขนส่งและชิ้นส่วนอุปกรณ์การขนส่งทะยานขึ้น 39.5% ในเดือนต.ค.
อย่างไรก็ตาม ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวแข็งแกร่งของอินเดียอาจกดดันให้ธนาคารกลางอินเดียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อและสกัดกั้นภาวะฟองสบู่
ลีฟ เอสเคเซน หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดอินเดียและอาเซียนของเอชเอสบีซี กล่าวในงานสัมมนาหัวข้อ "Doing Business in India" ที่จัดโดยธนาคารเอชเอสบีซีว่า อัตราเงินเฟ้อจะยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูง โดยคาดว่าของดัชนีราคาค้าส่ง (WPI) ของอินเดียจะขยายตัวที่ 6.1% ภายในเดือนมี.ค. 2554 จากระดับ 8.58% ในเดือนต.ค. และอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยของ WPI จะอยู่ที่ระดับ 5.5% ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจกดดันให้ธนาคารกลางอินเดียต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ด้านนักวิเคราะห์ของโกลด์แมนแซคส์ คาดว่า ธนาคารกลางอินเดียอาจประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยอีก 1% ในปีหน้า เมื่อพิจารณาจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ พร้อมกับแนะนำให้อินเดียใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จากเอชเอสบีซี ซีเคียวริตี้ แอนด์ แคปิตอล มาร์เกตส์ (อินเดีย) คาดว่า ธนาคารกลางอินเดียจะเริ่มเดินหน้าใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินในต้นปีหน้า หลังจากที่ชะลอการใช้นโยบายดังกล่าวมาระยะหนึ่ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน