นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนได้เดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อเจรจาความคืบหน้าโครงการเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย โดยหลักการสำคัญที่ได้พูดคุยกับทางการจีนคือ ต้องเร่งรัดให้เส้นทางรถไฟสายเอเชียเสร็จได้เร็วขึ้นแทนที่จะสร้างจาก จ.หนองคาย มาแค่กรุงเทพฯ ก็สร้างจาก จ.หนองคาย-กรุงเทพ-ปาดังเบซาร์ เพื่อที่จะไปเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟที่ทางมาเลเซียและสิงคโปร์จะสร้างขึ้น ซึ่งได้ทำปฏิทินเวลาคร่าวๆ ว่า จะสร้างให้เสร็จภายใน 4 ปี ซึ่งหากลงมือก่อสร้างได้ในเดือน ธ.ค.54 หลังจากนั้นก็จะมีเส้นทางรถไฟที่ชาวเอเชียจะได้เดินทางไปมาหาสู่กันได้โดยสะดวก และการพัฒนาพื้นที่ในแต่ละภูมิภาคก็จะเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเองได้ขอให้รัฐบาลจีนปฏิบัติกับประเทศไทยในข้อตกลงและสัญญาใดๆ ที่จะคุยกันต่อไป เหมือนที่ได้ตกลงกับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทั้งเรื่องลักษณะการร่วมทุน การบริหารจัดการ เงินกู้ และอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้เป็นประโยชน์กับการดำเนินของฝ่ายไทยมาก โดยรัฐบาลจีนได้เสนอว่าเพื่อให้เป็นไปตามแผน ขอให้ฝ่ายไทยเร่งรัดทำรายละเอียดเรื่องข้อตกลง(เอ็มโอยู) ต่างๆ เสนอรัฐสภาให้ความเห็นชอบ เพื่อจะได้ลงนามในเอ็มโอยูกันได้ในช่วงปลายเดือน มี.ค.54 ถึงต้นเดือน เม.ย.54 หลังจากนั้นจะได้เตรียมการก่อสร้างในปลายปี 54
"คาดว่าใช้เวลาในการก่อสร้าง 4 ปี หากผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาในช่วงเดือนเมษายน 2554 จะเริ่มโครงการได้ภายในเดือนธันวาคม 2554 ทั้งนี้ต้องการให้จีนใช้เงื่อนไขและสัญญาเดียวกันกับที่ทำกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว" นายสุเทพ กล่าว
สำหรับงบประมาณการลงทุนครั้งนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า รายละเอียดยังไม่ออกมาชัดเจน แต่เท่าที่ดูรายละเอียดที่ทำกับประเทศลาว ระยะทาง 480 กิโลเมตร ใช้งบ 4-4.5 หมื่นล้านหยวน ตกกิโลเมตรละ 90 ล้านหยวน แต่การก่อสร้างที่ลาต้องใช้ต้นทุนสูงกว่าไทย เพราะต้องเจาะอุโมงค์ตามภูเขาต่าง ๆ ถึง 190 กิโลเมตร และยังมีสะพานอีก 90 กิโลเมตร ส่วนไทยเป็นพื้นที่ราบ ดังนั้นต้นทุนต่อกิโลเมตรคงจะถูกกว่า รายการก่อสร้างหลักของเราจะมีที่สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ซึ่งครั้งนี้ตนเองก็ได้เจรจากับรองนายกรัฐมนตรีของลาวที่รับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย และได้ขอให้ประเทศไทยรีบไปกำหนดสถานที่สร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ เพราะถ้าไทยเลือกจุดได้ ฝ่ายเราจะได้ทำงานได้ทันที