ที่ประชุม Central Economic Work Conference ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (12 ธ.ค.) ว่า จีนจะเพิ่มและส่งเสริมการควบคุมเศรษฐกิจในระดับมหภาคเพื่อรับประกันเสถียรภาพและความแข็งแกร่งในการพัฒนาเศรษฐกิจในปีหน้า
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่า การควบคุมในระดับมหภาคจะเป็นไปในเชิงรุก มีเสถียรภาพ รอบคอบ และ ยืดหยุ่น โดยมุ่งเน้นไปที่การกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างเสถียรภาพและการพัฒนาอย่างรวดเร็ว การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ และ การคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อด้วยรูปแบบที่มีเสถียรภาพ
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน เปิดเผยว่า ยอดผลผลิตเหล็กของจีนลดลงเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 6 เดือน หลังจากที่เจ้าหน้าที่จีนกำหนดสัดส่วนในการใช้ไฟของโรงถลุงเหล็ก
โดยข้อมูลสถิติของสำนักงานฯ ระบุว่า ยอดผลผลิตเหล็กดิบลดลง 0.3% สู่ระดับ 50.17 ล้านตันในเดือนพฤศจิกายน จากระดับ 50.3 ล้านตันในเดือนตุลาคม และลดลง 4.8% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปี 2552
ส่วนยอดการผลิตเหล็กทั้งหมดตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายนของจีน เท่ากับ 577.3 ล้านตัน
-- กรมศุลกากรของจีน เปิดเผยว่า การนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กของจีนดีดตัวขึ้นในเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่ลดลง 2 เดือนติดต่อกัน ส่วนการส่งออกขยายตัวจากเดือนที่แล้วเพียงเล็กน้อย
โดยรายงานของกรมศุลกากรระบุว่า จีนได้นำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็ก 1.38 ล้านตันในเดือนพฤศจิกายน สูงกว่าปริมาณการนำเข้าในเดือนตุลาคม 240,000 ตัน ในขณะที่การนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กตั้งแต่เดือนมากราคม-พฤศจิกยนลดลง 7.0% สู่ระดับ 15.02 ล้านตัน ในขณะเดียวกัน จีนได้ส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็ก 2.91 ล้านตันในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับยอด 2.86 ล้านตันในเดือนตุลาคม แต่ยังคงต่ำกว่ายอด 3.01 ล้านตันในเดือนกันยายน ส่วนการส่งออกตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายนมีปริมาณทั้งสิ้น 39.70 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 86.7%
-- กรมศุลกากรจีน รายงานว่า การนำเข้าสินแร่เหล็กของจีนยังคงเติบโตต่อเนื่องในเดือนพฤศจิกายน แตะ 57.38 ล้านตัน และเติบโต 12% เมื่อเทียบเป็นรายปี
-- หยาว ซีปิง ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท ไมน์เมทัลส์ เดเวลล็อปเมนท์ คาดว่า ยอดการผลิตเหล็กดิบของจีนมีแนวโน้มจะลดลงในปีที่ต่อๆ ไป เนื่องจากรัฐบาลยังคงใช้นโยบายควบคุมการใช้ไฟในอุตสาหกรรมที่ใช้ไฟเป็นจำนวนมาก
โดยนายหยาว กล่าวในการสัมนาของอุตสาหกรรมว่า เป้าหมายการประหยัดพลังงานและลดปริมาณการปล่อยมลภาวะของรัฐบาลนั้น อย่างน้อยก็จะเป็นแรงกดดันต่อการการผลิตเหล็กดิบในครึ่งแรกของปี 2554 และผลผลิตของอุตสาหกรรมอาจได้รับผลกระทบในปีต่อๆ ไป ตามนโยบายเกี่ยวข้องที่เข้มงวดของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม นายหยาวยังมีมุมมองที่ดีต่อการส่งออกของอุตสาหกรรมว่า การส่งออกเหล็กและเหล็กกล้าของจีนจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
-- หยัน เซี่ยจูน ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท เหอเป่ย ไอรอน แอนด์ สตีล กรุ๊ป ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของจีน กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะเทคโอเวอร์โรงถลุงเหล็กที่มีขนาดเล็กกว่าหลายแห่งในเร็วๆนี้
โดยเหอเป่ย ไอรอน แอนด์ สตีล กรุ๊ป ซึ่งมีสำนักงานในภาคเหนือของจีน และเป็นบริษัทแม่ของเหอเป่ย ไอรอน แอนด์ สตีล ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นนั้น มีแผนจะเข้าซื้อกิจการของบริษัทเอกชนมากกว่า 1 แห่งผ่านทางแหล่งเงินทุนจากส่วนของผู้ถือหุ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน